วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

มนต์เพลงสันติภาพ


"ภัยพิบัติธรรมชาติน่ากลัวที่สุดและควบคุมได้ยากอย่างที่ได้เห็นกันในข่าวทุกวัน...แต่ภัยจากมนุษย์กันเองก็น่ากลัวไม่แพ้กัน... และที่ตลกเศร้าก็คือ ภัยจากมนุษย์นั้นควบคุมง่ายนิดเดียว ก็แค่มนุษย์(โดยเฉพาะท่านมนุษย์คนใหญ่คนโตบางคน)หยุด! หยุดแก่งแย่งแข่งดี-หยุดเบียดเบียน-หยุดอิจฉาริษยา-หยุดอัตตา หยุด...ฯลฯ... สันติภาพก็เกิดขึ้นทันที...แต่ความจริงก็คือมนุษย์ไม่ยอมหยุด!...หรือบางทีลึกๆแล้วมนุษย์(โดยเฉพาะท่านมนุษย์คนใหญ่คนโตบางคน) อาจไม่ได้ต้องการสันติภาพจริงๆอย่างที่ปากพร่ำพูดก็เป็นได้...อาจเป็นเพียงแค่การพูดหรูๆให้ตนดูดีไปงั้นๆเอง"...ชาวบ้านธรรมดาตาดำๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็พลอยรับเคราะห์ไปด้วย

เผ่าพันธุ์มนุษย์ใฝ่ฝันพร่ำเพ้อเรื่องสันติภาพมาช้านานแต่มันยังไม่เป็น จริง... บทเพลงเรียกร้องสันติภาพ-เรียกร้องความสงบสุข-ต่อต้านสงคราม...ฯลฯ จึงยังคงขับกล่อมต่อไป

War : Bob Marley


That until there is no longer first class
And second class citizens of any nation
Until the colour of a man's skin
Is of no more significance than the colour of his eyes
Me say war
จนกว่าไม่มีพลเมืองชั้นหนึ่งและพลเมืองชั้นสองในชาติ...จนกว่าสีผิว-สีนัยน์ตาไม่มีความสำคัญอีกต่อไป....เราเอ่ย "สงคราม"...เนื้อร้องบางตอน


************************************************************

"Earth Song" : Michael Jackson


I used to dream I used to glance beyond the stars
Now I don't know where we are Although I know we've drifted far
ผมเคยฝัน เคยเฝ้าจ้องดวงดาวอันไกลโพ้น ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเราอยู่กันที่ไหน แต้รู้ว่าเราหลงทางกันมาไกลเหลือเกิน

Did you ever stop to notice All the blood we've shared before All the children dead from war
Did you ever stop to notice This crying Earth this weeping shores
คุณเคยหยุดสังเกตไหม...เลือดที่พวกเราร่วมกันเสียไป เด็กต้องตายจากสงคราม
คุณเคยหยุดสังเกตไหม...โลกกรีดร้อง ชายทะเลร่ำไห้...เนื้อร้องบางตอน


************************************************************

มนต์เพลงสันติภาพ ระดับตำนาน อื่นๆ











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น