วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2559

วิวัฒนาการ/ความเคลื่อนไหว การวิจัยพัฒนา หุ่นยนต์!

ในคลิปนี้ไม่ใช่หนังไซไฟหุ่นยนต์  แต่คือการรวมรวบ วิวัฒนาการ/ความเคลื่อนไหว หุ่นยนต์รุ่นเด่นๆต่างๆ ขององค์กร/บริษัทชั้นนำต่างๆ ที่อยู่ระหว่างวิจัยพัฒนา ณ ขณะนี้



ดูคลิปแล้ว ถึงแง่หนึ่งจะนึกถึงอรรถประโยชน์มากมายตื่นตาตื่นใจ ในระดับพลิกโฉมวิถีชีวิตสังคมมนุษย์เราในอนาคตอันใกล้ ... (แต่ด้านหนึ่งก็อดนึกไม่ได้ แอบได้กลิ่น เค้าลางการสูญพันธุ์! มนุษยชาติในอนาคต แบบในหนัง +_+)

บรรยกาศฉากในคลิป ที่ปล่อยออกมานี้ ก็คงเป็นแค่บางมุมที่เปิดเผยออกสื่อ ... แต่จะมีมุมอื่นๆเก็บลับหรือไม่ ? ว่าแท้จริงพัฒนากันไปถึงระดับไหนแล้วแน่นั้น ? (อาจไปไกลกว่านั้นมากแล้ว ?) ... ก็คงไม่มีใครรู้ (ถ้าไม่ใช่คนวงในจริงๆ) 


แต่ยังไงแล้ว อีกไม่นาน หุ่นยนต์คงเข้ามามีบทบาทในสังคม-ชีวิตมนุษย์เราอย่างแพร่หลายในหลายๆฐานะ อย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน เราก็ย่อมได้พบกับผลกระทบทั้งแง่ดีและร้ายที่จะตามมา จับตาดู เตรียบรับมือต่อไป

... มันอาจมาเร็ว กว่าที่คิดไว้ ?

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559

คำคม ฮิตเลอร์!



คลิป บรรยากาศสมรภูมิสงคราม ฮิตเลอร์ และกองทัพนาซี


เครดิตจาก https://th.wikiquote.org


By the skillfull and sustained use of propaganda, one can make a people see even heaven as hell or an extremely wretched life as paradise.
โดยการใช้โฆษณาชวนเชื่ออย่างมีทักษะและอย่างไม่ลดละแล้ว ก็สามารถทำให้คนมองเห็นสวรรค์เป็นนรก หรือกระทั่งชีวิตอันเลวร้ายสุดประมาณเป็นทิพย์วิมาน

It is always more difficult to fight against faith than against knowledge.
การสู้กับศรัทธานั้นยากเย็นกว่าสู้กับความรู้เสมอ

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559

ได้เวลาบอกลาโลกจริง Sex Suit‬ ระบบ VR


Sex Suit‬ ระบบ VR ไม่ใช่แค่อยู่ในขั้นไอเดีย แต่ผลิตออกมาวางจำหน่ายใช้งานจริงแล้ว ตามคลิป ( ณ ตอนนี้ขายเฉพาะญี่ปุ่น ได้ข่าวสนนราคาหมื่นต้นๆ และขายหมดอย่างรวดเร็ว ) 


เครดิตข้อมูล https://www.rt.com/viral/338662-virtual-reality-sex-suit/

เรียกนวัตกรรมนี้ว่า Illusion VR ( แว่นVRปกติ + ชุด/อุปกรณ์สัมผัสเสริมสมทบ)...ซึ่งก็ไม่เฉพาะ sex แต่ประยุกต์อื่นๆก็ได้หมดนะคับ เกม, สินค้า, ซอร์ฟแวร์, หนัง ฯลฯ ) ... /// คาดว่านวัตกรรม VR (Virtual reality หรือ โลกเสมือนจริงนี้) ...อนาคตอันใกล้ จะผลิตออกมารูปแบบต่างๆสำหรับวงการต่างๆอีกมากมาย และจะสมจริงยิ่งๆขึ้นไป กับขนาดที่เล็กลงเรือยๆ ? มันย่อมเป็นเทคโนฯพลิกโลกกระทบวิถีชีวิต-สังคม(ทั้งดีและร้าย!) อย่างเลี่ยงไม่ได้ เตรียมรับมือต่อไป

ปล. แอบคิดว่า แล้วจะเป็นอย่างไร ... ถ้าแว่น VR พัฒนากลายเป็นทำนอง คอนแทคเลนส์!ใส่ลูกตาเลย + อันมีเมมโมรีบรรจุสื่อ-วิดิโอ ฯลฯ ระบบ VR ฝังในตัว + อาจชาร์ตแบตโดยความร้อนร่างกายมนุษย์ในตัว ! (การได้ตลอด 24 ชม.)  

ตัวอย่าง ความเคลือนไหว โปรเจค VR อื่นๆ



วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

ด.ญ. "ศานติเทวี" กรณีศึกษาผู้ระลึกชาติ ในตำนาน

รายละเอียดสังเขป ล่างนี้ #โปรดใช้วิจารณญาณ : เรื่องระลึกชาติ! ทำนองนี้ หลายคนอาจเคยได้ยินหลายๆเคสอดีตยันปัจจุบัน ... บ้างก็พบว่าต้มตุ๋มชัดๆ บ้างก็ยังคลุมเครือเล่าอ้างกันไป ... แต่กรณี #ศานติเทวี ดูจะเป็นกรณีที่ว่ากันว่า พอจะน่าเชื่อได้ที่สุด ? และยังคงนิยมอ้างอิง กล่าวขวัญถึง ... 

ด.ญ. "ศานติเทวี" (Shanti Devi) (เกิดปี 1926) ... อยู่ที่เมืองเดลี ประเทศอินเดีย เมื่ออายุได้ 4 ขวบ (ปี 1930) ก็เริ่มเล่าพ่อแม่แปลกๆว่า ชื่อของเธอคือ "ลุคทิเทวี"(Lugdi Devi) ต่างหาก เมื่อก่อน(ชาติก่อน!)นั้น บ้านเดิมเธออยู่เมืองมธุรา(ห่างจากเดลีประมาณแค่ 145 กม.) มีสามีเป็นพ่อค้าชื่อ "เกทาร์นาถ" (KedarNath) แต่เธอได้ตายหลังจากคลอดลูกชายได้ 10 วัน แล้วจึงเกิดใหม่เป็นเธอนี่เอง ... แน่ละ มาแบบนี้ พ่อแม่ย่อมไม่เชื่อ ทั้งต่อมาก็กังวลว่าลูกคงไม่ปกติเสียแล้ว เพราะเธอพร่ำบอกเรื่องนี้ยิ่งขึ้นเป็นระยะๆ

จนตอนอายุ 6 ขวบกว่าๆ ศานติเทวี พยายามหนีโดยเดินเท้าหมายจะไปมธุรา แต่พ่อแม่รู้ก็ตามตัวกลับได้ก่อน... พ่อแม่ยิ่งกังวลคิดว่า ศานติเทวี ไม่ปกติแน่ๆ ครูที่โรงเรียนของเธอก็รู้เรื่องนี้ ครูจึงคิดลองไปสืบที่เมืองมธุรา ตามหาพื้นที่ ที่ศานติเทวีเคยอ้าง (ศานติเทวี ไม่ได้ไปด้วย)

ปรากฏว่า ครูก็ได้พบชายผู้ที่ชื่อว่า เกทาร์นาถ ... พูดคุยกัน ก็ได้เล่าว่าเขามีอาชีพเป็นพ่อค้า เคยมีภรรยาชื่อ ลุคทิเทวี แต่เธอตายเมื่อ 9 ปีที่แล้ว หลังเธอคลอดลูกชายได้เพียง 10 วัน ตรงตามที่ ศานติเทวี เล่า ... เกทาร์นาถ เองเมื่อได้รู้เรื่องเกี่ยวกับ ด.ญ.ศานติเทวี ก็ไม่อยากจะเชื่อนัก

อีกไม่นานหลักจากได้พบครู เกทาร์นาถ พร้อมลูกชาย ได้นัดแนะกับครู ไปที่เดลี ยังบ้านของ ศานติเทวี แบบไม่บอกกล่าว ...ศานติเทวี ได้เห็นก็จำได้ทันทีว่าคือ สามีและลูกของเธอในชาติก่อน เธอเข้ากอดจูบลูก และร้องไห้อาลัยมาก (แน่ละ ลูกของเธออายุมากกว่าเธอ) ... ศานติเทวี ยังได้เล่ารายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆเพิ่มเติมไปอีก เกทาร์นาถและทุกคนก็ยิ่งประหลาดใจว่ารู้ได้ยังไง

ที่สำคัญต่อมาอีกไม่นานเรื่องนี้ร่ำลือมาก จนไปถึง มหาตมะคานธี! ... คานธีและคณะ ถึงกับไปพบ ศานติเทวี ด้วยตัวเอง และยังได้ส่งเธอไปบ้านเก่าที่ มธุรา เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 1935 (คานธีอายุ 66) อันมีคณะที่ค่อนข้างทรงวุฒิ ตามไปมากมาย ทั้งนักหนังสือพิมพ์ นักกฏหมาย ฯลฯ ซึ่งศานติเทวี ก็สามารถจดจำสมาชิกในครอบครัวดังกล่าวได้ทุกคน ไล่ตั้งแต่ปู่ และญาติและเหตุการณ์สถานที่เกี่ยวเนืองอืนๆ ก็สามารถตรวจเทียบพิสูจน์ตรงได้หมดอย่างเหลือเชื่อ 


หลักจากครานั้น ก็แยกย้ายกันไปต่างคนต่างอยู่(สามีเก่าเธอก็มีภรรยาใหม่แล้ว) ศานติเทวี ก็กลับเดลี ใช้ชีวิตตามปกติต่อไป แม้จะออกอาการรู้สึกพูกพันบ้านเดิมชาติที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ย้ายหรือทิ้งพ่อแม่ครอบครัวชาติใหม่ใดๆ และเมื่อ ศานติเทวี เติบโตขึ้น ก็ครองตัวเป็นโสด ใช้ชีวิตเงียบๆง่ายๆสมถะ ศึกษาปฏิบัติธรรมจริงจัง... ทั้งพูดเรื่องนี้น้อยลง จนไม่ปริปากอะไรมากนัก และก็ไม่ได้ออกงานเชิงหาประโยชน์จากเรื่องระลึกชาติของเธอใดๆ...จนปี 1986 เธอจึงได้ให้สัมภาษณ์กับบุคคลที่มาขอสัมภาษณ์-อยากสืบสวนเรื่องราวชีวิตของเธออีกครั้ง อาทิ ให้สัมภาษณ์ต่อ Ian Stevenson (จิตแพทย์ชาวแคนาดา) และต่อมาอีกปีถัดไป(1987) ก็มี DR. Rawat ได้ทำการสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายของศานติเทวี ที่เกิดขึ้นเพียง 4 วันก่อนที่ เธอ จะเสียชีวิตในวันที่ 27 ธ.ค. 1987 (อายุได้ 61 ปี)

* เครดิตหลักจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Shanti_Devi (+กูเกิล ข้อมูลเสริมปลีกย่อยสบทบจากเว็บต่างๆ )