วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

iPad ปะทะ Courier???

ก่อนอื่นลองฟังทัศนะจาก ฮิตเลอร์! ก่อน ว่าท่านคิดอย่างไรกับ iPad...ฮา... (ขำๆแต่ก็เป็นความจริงพอควร :)

ศาสดา สตีฟ จอบส์ และเหล่าอัครสาวกแห่งลัทธิแอปเปิล (Apple) ได้ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ "ไอแพด แท็บเล็ต" (iPad Tablet) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมันมีคุณสมบัติเป็นแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว ซึ่งตำแหน่งทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะอยู่ระหว่าง "ไอโฟน" (iPhone) และ "แม็คบุ๊ค" (MacBook) พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำ "iBook Store" หน้าร้านเสมือนสำหรับอีบุ๊กด้วย...งานนี้ เรียกว่าเป็นการรุกรานอธิปไตย Amazon.com เต็มๆ...ซึ่งคาดว่า iBook Store นี้มันจะยิ่งใหญ่และเป็นการปฏิวัติวงการซื้อขายสินค้าดิจิตอลบนโลกออนไลน์พอๆ กับ "App Store" เลยทีเดียว...

ดูๆไปแล้วมันคือ iPhone ที่โทรออกไม่ได้ เป็น Macbook ที่เล็กลงและลดสเปก สรุปมันน่าจะเป็น iPod Touch เวอร์ชั่นจัมโบ้...??? แต่ในกรณี E-Book ที่พ่วงกับร้านหนังสือ iBook Store ต้องบอกว่ามันจ๊าบ!มาก ...ต่อไปในอนาคตห้องสมุด-ร้านหนังสือทั่วไป จะกลายเป็นแค่โบราณสถานและล่มสลายไปในไม่ช้าก็ด้วยระบบทำนองนี้หล่ะ! ...ทำนองเดียวกับ CD เพลง-ร้านขายCD ที่หยุดการเติบโตและกำลังจะค่อยๆล่มสลายอยู่ ณ ปัจจุบัน!

คาดว่าลัทธิยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft จะออก " Tablet " ที่ชื่อ "Courier" ออกมาชน เร็วๆนี้ ???...และอีกหลายค่ายใหญ่ต่างๆก็น่าจะทยอยออกมาสู้เช่นกันตามระเบียบ...ฤา งานนี้ สงครามนวัตกรรม IT ครั้งใหญ่จะปะทุเดือดพล่านขึ้นอีกระลอก!...ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ Courier ที่หัวข้อเก่า เมื่อยักษ์ไมโครซอฟท์ ตื่น!

...ก็ลองเทียบเล่นๆดูนะครับระหว่าง iPad กับ Courier อันไหนน่าสนใจกว่ากัน...จะเสียตังค์ซื้อกันไหม ฮึๆๆ

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

มันกลับมาแล้ว Predator!

และแล้วมันก็กลับมาล่าอีกครั้ง นักล่าพันธุ์วิปริตของจักรวาล "Predator"

ภาพยนตร์ Predators 2010 (ภาค3) ที่เพิ่งซุ่มเปิดกล้องถ่ายทำไปเมื่อไม่นานมานี้ และมีกำหนดเข้าฉายภายในปี 2010 นี้เอง

ปรากฎว่าได้เกิดมีหลุด!...ภาพการถ่ายทำและพล็อตเรื่อง ถูกเผยแพร่ร่อนไปทั่วเว็บใหญ่ต่างๆของอเมริกาและยุโรป...โดยล่าสุด 20th Century Fox ได้ไล่สั่งห้ามให้เว็บไซต์เหล่านั้นได้หยุดทำการเผยแพร่แล้ว!... โชคดีที่บังเอิญไปคว้าภาพบางส่วนมาไว้ได้...ฮึๆ จึงจัดไว้ใน Blog ให้ได้ดูเล่นกัน (หวังว่า20th Century Fox คงไม่ถือสา Blog เล็กๆ...)

พล็อตเรื่อง ได้ความมาประมาณว่า....พวกพรีเดเตอร์เกิดนึกสนุกใช้เทคโนโลยีพิเศษ ลักพาตัวชาวโลก 8 คน โดยจับไปปล่อยทิ้ง ณ สถานที่แห่งหนึ่งบนดาวบ้านเกิดของมันเอง(สภาพบ้านเมืองบนดาวบ้านเกิดของพวกพรีเดเตอร์จะเป็นยังไงคงได้เห็นกันก็คราวนี้?) แล้วทำการเล่นเกมส์ไล่ล่า-ฆ่า!อย่างมันมือ...??? โดยมีพรีเดเตอร์ตัวเด่นๆ 3 ตัว นามว่า....

1. Black Super Predator - - - ราชันย์ดำพรีเดเตอร์ ???
2. Falcon Predator - - - พรีเดเตอร์เหินเวหา ???
3. Dog Predator - - - พรีเดเตอร์พันธุ์หมาบ้า ???


หนังจริงจะออกมา อลังการตื่นตาตื่นใจถูกอกถูกใจแฟนๆ หรือ ทำให้ผิดหวังไปตามๆกัน ก็คอยดูกันต่อไป ...คาดว่าคงมี Trailer ออกมาอีกไม่นาน :)

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553

เดรัจฉานกิจกรรม


"เดรัจฉานกิจกรรม"
เป็นคำของ ถวัลย์ ดัชนี จิตรกรไทยบันลือโลก


เดรัจฉานกิจกรรม หมายถึง กิจกรรมอะไรก็ตามที่เป็นไปเพื่อไปจบอยู่แค่สิ่ง 3 สิ่ง นั้นคือ กิน นอน และ ร่วมเพศ! ! !

แล้วสิ่งที่นอกเหนือจาก เดรัจฉานกิจกรรม คืออะไร? คำตอบก็คือ... ธรรมะ และ ศิลปะ (ท่านว่าไว้ทำนองนั้นนะ)

ถวัลย์ ดัชนี ให้นิยาม "ศิลปะ"



สรุปจากวิดิโอคลิป...

ศิลปะ คือ... การทำงานที่เกิดจากความรัก ความมุ่งมั่น ศรัทธา ประสบการณ์ และหลอมรวมมาเป็นพลังขับเคลื่อน ที่เป็นรูปลิ่มของมนุษย์ในทางสุนทรียภาพ...???

องค์คุณงานศิลปะ...
1. ต้องมีความคิดคำนึง
2. การแสดงออกถึงรูปอารมณ์ของความสะเทือนใจนั้น
3. มีท่วงท่าของจิตวิญญาณที่เป็นอิสระ และร้อนเร่า และเพลิงปรารถนา หรือความก่ำไหม้ของอารมณ์ จะโศรกเศร้า หรือปิติยินดี หรือกำหนัด หรืออะไรก็ตามที จะต้องหลอมรวมเดี๋ยวนั้น
4. จะต้องมีปัจเจกลักษณะส่วนตัวของบุคคลผู้ซึ่งสร้างทำ
5. ต้องมีความประสานกลมกลืน
6. เป็นสุดยอดของเทคนิค

ประกอบด้วยองค์คุณทั้ง 6 นี้แล้วจึงเรียกได้ว่าเป็น งานศิลปะ...แต่ถ้าไม่ครบ 6 อย่างก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นงานศิลป์... เป็นแค่การประดับประดา งานดาดๆชั้นต่ำชั้นเลวๆ!...อย่ามาเขยิบตัวสำคัญตนว่าเป็นศิลปินทำงานศิลปะ... ??? :)


...........................................


ประวัติของ ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งท่านถวัลย์เรียบเรียงด้วยตัวเอง

ท่านเรียกมันว่า "ประวัติย่น"


ประวัติย่น ถวัลย์ ดัชนี

เกิดวันพุธที่ 27 กันยายน 2482 เชียงราย

4 ขวบ : นิทรรศการแสดงเดี่ยว ศาลาราย วัดช้างมูบมิ่งเมือง เชียงราย

5 ขวบ :หมาบ้ากัด ทำให้เห่าหอนทุกคืนเดือนเพ็ญมาจนแก่

6 ขวบ : นิทรรศการเดี่ยว ศาลาวัด วัดมุงเมือง เชียงราย

7-8 ขวบ: ย้ายไปอยู่ป่า สงครามโลกครั้งที่ 2

9 ขวบ :เป็นผู้ชำนาญการดักสัตว์ขนาดเล็ก ปลา แมลง และสัตว์เลื้อยคลาน

10 ขวบ :ยิงหนังสติ๊กเป็นเยี่ยม ทั้งหมู่บ้าน เชียงราย พะเยา

11 ปี : เป็นนักบาสเกตบอล โรงเรียนจีนกุงหมินแซเซี้ยว เชียงราย

12 ปี :เป็นคนเขียนรูปจรยุทธ์ไปทั่วเชียงราย

13-16 ปี :มาอยู่ตามซอกตึก โรงเรียนเพาะช่าง เป็นแวนโก๊ะ เอลวิส เสือปืนไว

17-21 ปี :เรียนวิชาต่อสู้ด้วยปากเปล่า มหาวิทยาลัยศิลปากร

22-28 ปี :อกหัก ประกวดกรนได้ที่ 1 ที่ปารีส,โรม,อัมสเตอร์ดัม

30-35 ปี :รูปเขียนขนาดใหญ่ 10 รูป ถูกนักเรียนฟัน มีลูก พ่อตาย มีบ้านหลังที่ 1

35-40 ปี :เป็นผีตองเหลือง ร่อนเร่อยู่ระหว่าง เอเชีย ยุโรป อเมริกา

40-45 ปี :เป็นเก๊าต์ ริดสีดวงทวาร เป็นแชมป์กรนนานาชาติ ประกวดที่แกรนด์แคนยอย อเมริกา หัวหน้าอินเดียแดง เผ่ามูเอโบล ขอดูตัว

45–50 ปี :อ้วน แก่ หัวล้าน ลงพุง ฟันหัก

55-60 ปี :ธุดงค์ ไปทิเบต ภูฎาน เนปาล บาหลี ดูพิธีเผาศพ

61-62 ปี :เป็นไส้เลื่อน ลูกหมากโต ความดันทุรังสูง ความทรงจำเสื่อม สะดือจุ่น แม่ตาย พี่ชายตาย พี่สะใภ้ตาย 2 คนซ้อน


...........................................



หนังสือชีวประวัติและผลงานของ ถวัลย์ ดัชนี

“มนุษย์ต่างดาว ถวัลย์ ดัชนี” พิมพ์สี่สี กว่า 200 หน้า จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ วสี ครีเอชั่น จำหน่ายในราคาเล่มละ 450 บาท เนื้อหาประกอบไปด้วย ประวัติย่น,มนุษย์ต่างดาว,วัยเยาว์,โรงเรียนเพาะช่าง,มหาวิทยาลัยศิลปากร,อารมณ์ศิลปิน,แต่งเนื้อแต่งตัว,ความรัก,ดอกเตอร์ถวัลย์ ดัชนี,บ้านดำ นางแล,วาดรูปประดับปราสาท,ครั้งหนึ่งที่แอลเอ,เศรษฐีวาดรูป,มองงานตัวเอง,ศิลปะเกื้อกูลศิลปะ,นิทรรศการไตรสูรย์,ชีวิตประจำวัน,ถวัลย์กับหนังสือ,ช่วยเหลือสังคม,เพื่อเก่าเล่าเรื่องเก่า,พญาหิ่งห้อย,ผลงาน,รางวัลอันทรงเกียรติ,ถวัลย์ ดัชนีกับบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

มังกรสร้างชาติ

"เมืองกังวล"

เมืองใดไม่มีทหาร เมืองนั้นไม่นาน...เป็นข้า
เมืองใดไร้จอมพารา เมืองนั้น ไม่ช้า...อับจน
เมืองใดไม่มีพานิชเลิศ เมืองนั้น ย่อมเกิดสับสน
เมืองใดไร้ศิลปะโสภณ เมืองนั้น ไม่พ้นเสื่อมทราม
เมืองใดไม่มีกวีแก้ว เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม
เมืองใดไร้นารีงาม เมืองนั้นสิ้นความภูมิใจ
เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศ เมืองนั้นไม่เพริศพิสมัย
เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน

- พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 6 -

แต่สำหรับเมืองจีนปัจจุบัน ดูเหมือนจะเพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ตามที่ท่านได้กล่าวไว้ในบทกลอน ???

ภาพยนตร์ “มังกรสร้างชาติ” หรือ The Founding of a Republic (คงทำออกมาเป็นดีวีดีจำหน่ายในไทยเร็วๆนี้)ภาพยนตร์ที่รวมดาราทั่วฟ้าเมืองจีน ถือเป็นการร่วมแรงร่วมใจของทั้งนักแสดงและผู้กำกับจีนชื่อดังตั้งแต่ เจ็ต ลี, หลิวเต๋อหัว, เฉินหลง, โจว เหวิน ฟะ, จางซิยี่ และอีกกว่า 100 คน ที่มาช่วยกันสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สุดอลังการด้วยทุนสร้างถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นการถ่ายทอดประวัติศาสตร์จีนในช่วงปี 1945 - 1949 ...ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวสงครามกลางเมืองเพื่อแย่งชิงอำนาจการปกครองประเทศ เมื่อกองทัพแดงซึ่งนำโดยประธานเหมา ขาดแคลนอาวุธอันทันสมัย แต่เต็มไปด้วยความอดทน และอุดมการณ์ กลับสามารถครองใจประชาชน เอาชนะในสงครามเหนือพรรคก๊กมินตั๋งที่นำโดยนายพลเจียงไคเช็ค ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งเรื่องงบประมาณ ยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกา

หนังทำออกมาได้อลังการสุดยอดอยู่แล้ว แต่คิดว่าคงเพราะการเขียนบท หนังจึงดูฝืดๆนิดหน่อย??? หรืออาจเพราะเป็นหนังที่ผู้ดูต้องรู้ประวัติศาสตร์จีนในระดับที่ดีมากจึงจะดูได้ลื่นไหล??? แต่ยังไงหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นภาพความเป็นมา-ความวุ่นวาย-ความยากลำบาก กว่าจะมาเป็นประเทศจีนในวันนี้ โดยเฉพาะความยากลำบากของ มังกรผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ท่านประธานเหมา และพลพรรคคอมมิวนิสต์

ว่ากันว่าอีกไม่นาน ประมาณแค่ช่วง 10-20 ปีข้างหน้า จีน จะผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจโลกแทนที่ อเมริกา - ยุโรปตะวันตก (ช่วงนี้เลยเห็นพลพรรคมะกันโดยเฉพาะนักการเมือง-นักวิชาการ โจมตีวิจารณ์จีนยกใหญ่ คงครั่นคร้ามหวั่นๆกันพอสมควร)... แล้วไทยเราล่ะ??? จะสร้างชาติสร้างแผ่นดินกันยังไงต่อไป???... (ยังหวั่นๆอยู่ว่า ฤาจะซ้ำรอยห่ำหั่นล้างเมืองกันแบบ มังกรสร้างชาติ..)

.........................

***แถม : ขอแนะนำ มังกรสร้างชาติฉบับสารคดี (วางจำหน่าย สดๆร้อนๆ เมื่อเร็วๆนี้เองในห้าง Big C เรียกว่าขอเกาะกระแสหนัง มังกรสร้างชาติไปด้วยคน :) ถึงไม่อลังการเท่าฉบับภาพยนตร์แต่ก็เต็มไปด้วยวิดิโอเก่าๆหาดูยากของเหล่ามังกรตัวจริงที่ช่วยกันสร้างชาติ และที่สำคัญเนื้อหา-บท เขียนได้กระชับ ดูง่าย ทำให้เข้าใจภาพรวมความเป็นมากของการสร้างชาติจีนได้ดีมากทีเดียว


.........................

***แถมอีกหน่อย : ภาพงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปี วันชาติจีน จัดเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2009... ยิ่งใหญ่ตระการตาสมศักดิ์ศรีว่าที่ จ้าวโลกแห่งทศวรรษหน้าอันใกล้???

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553

Cybertron สงครามไม่รู้จบ

Transformers มหากาพย์สงครามของหุ่นยนต์ที่ไม่ใช่หุ่นยนต์ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตสปีชี่ส์เก่าแก่พันธุ์หนึ่งในจักรวาล ที่มีความสามารถพิเศษในการสิงอยู่ในร่างของอะไรก็ได้ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต แต่ส่วนใหญ่เราจะเห็นกันในรูปของยานพาหนะต่างๆ และเมื่อจะสู้กันก็ค่อยแปลงไปเป็นหุ่นยนต์ แบ่งได้เป็น 2 ฝ่ายคือ ออโต้บ็อต กับ ดีเซปติคอน ซึ่งต่างก็ห้ำหั่นกันไม่รู้จักจบจักสิ้นเพื่อแย่งแหล่งพลังงานอมตะที่ชื่อ All Spark รบกันตั้งแต่ภาคการ์ตูน(ยุคที่หลายคนเกิดไม่ทัน ) จนปัจจุบันเป็นภาคภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์

ล่าสุดเวอร์ชั่นเกมส์ ภาค Transformer War for Cybertron งานนี้ถล่มกันที่ดาวบ้านเกิด หรือ ดาว Cybertron หน้าตารูปลักษณ์แต่ละตัวแปลกตาอออกไปแต่ก็พอเดาได้ว่าใครเป็นใครลองดูครับ


.......................................

*** ปล : เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้มาก่อน... ประวัติศาสตร์ในอดีตอันไกลโพ้นยุคหนึ่ง พวก Transformers พลัดตกไปอยู่ ณ ดาวดวงหนึ่ง ซึ่งยังเป็นป่าดึกดำบรรพ์ จังหาร่างที่เป็นยานยนตร์พาหนะต่างๆสิงไม่ได้ เลยจำต้องสิงอยู่ในร่างสิงห์สาราสัตว์ ปรากฏใน ภาคการ์ตูน Transformer : Beast Wars


วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2553

จาก Paris? ถึง Skynet!


เธอชื่อ น้อง"Paris"
ออนไลน์ MSN ทีไรเธอเป็นหาเรื่องทุกทีไป...ฮึๆ

เชื่อว่าหลายคนที่ใช้ MSN หรือโปรแกมแชทอื่นๆคงได้เจอคนแบบเธอมาบ้างเหมือนกัน หน้าตาเธอสะสวยแถมโพสท่าได้ Sexy เย้ายวนชวนยวนยี(ฮา)...เธอจะมักจะพูดจาด้วยข้อความซ้ำๆทำนอง ทักทายแนะนำตัว และลงท้ายด้วยการส่ง Link เว็บของเธอ โดยเธอบอกว่าเข้าไปแล้วจะเปิดเว็บแคม แก้ผ้า!ให้ดู...

คนในวงการ IT-Com เป็นที่รู้กันดีว่า เธอไม่ใช่คน! แต่เป็น หุ่นยนต์ดิจิตอล หรือ CyberBot! หรือสั้นๆว่า Bot ซึ่งถูกโปรแกรมให้ทำงานแบบอัตโนมัติ และถึงแม้คุณพยายามจะ Block เธอแค่ไหน(แหมผู้ชายอะไร เล่นตัวจังแค่นี้ก็ Block กันด้วย :) เธอก็จะตามตื้อตามล่าด้วยการ add เข้ามาใหม่อยู่เรื่อยๆมาแบบอัตโนมัติเสียด้วย (ถึงแม้จะบอกเธอว่าไม่ได้เป็น John conner ก็ตาม ??? )...เพราะพวกเธอมีหลายคนและยังมีอีเมล์คนละหลายเมล์อีกต่างหาก...ได้แต่หวังว่า ในอนาคตคงจะมีโปรแกรมออกมาไว้สำหรับป้องกันหรือฆ่า!เธอโดยเฉพาะ...ฮึๆ

CyberBot นับว่าเป็นนวัตกรรมหุ่นยนต์พันธุ์ใหม่ล่าสุดของโลก มันเป็นหุ่นยนต์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ทำตัวเสมือนมนุษย์ กระจายตัวอยู่ตาม ChatRoom Webboard รวมถึง Social-Network ต่างๆ สามารถพูดคุยตอบโต้ รวมทั้งส่งอีเมล์ และPostข้อความต่างๆได้...ฉะนั้นนักท่องโลกไซเบอร์พึงสังวรไว้ว่า คนที่คุณพูดคุยตอบโต้ด้วยอาจไม่ใช่คนจริงเป็นๆ เสมอไป!


.......................................

CyberBot ทำนองน้อง Paris ทำให้ผมนึกถึง Skynet ให้หนังไซ-ไฟ ชุด Terminator ลองมาดูเหตุการณ์ที่มาของ Skynet โดยย่อ(แต่ก็ยาวหน่อยนะ) เป็นลำดับดังนี้

-- บริษัท Cyberdyne ผู้ประดิษฐ์ระบบคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก สามารถสร้างระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่องบินให้สามารถบินได้โดยไม่ต้องมีคนจริงทำหน้าที่เป็นกัปตันบังคับอีกต่อไป เรียกระบบคอมพิวเตอร์นี้ว่าระบบ Skynet

-- Cyberdyne ได้พัฒนาระบบ Skynet ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น มันถูกพัฒนาให้สามารถทำงานสั่งการอุปกรณ์และเครื่องจักรที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆได้แทบทุกอย่างโดยไม่ต้องใช้มนุษย์ในการตัดสินใจแต่ประการใด

-- รัฐบาล-โรงงานอุตสาหกรรม-และบรรษัทธุรกิจชั้นนำทั่วโลกรับระบบ Skynet มาใช้ควบคุมและจัดการงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งยวดยานพาหนะทุกประเภทรถ-เรือ-เครื่องบิน, ควบคุมการผลิตเครื่องจักร-สินค้าในโรงงาน-การก่อสร้าง, การสื่อสาร มือถือ-โทรศัพท์บ้าน, การไฟฟ้า-น้ำประปา, ระบบการเงิน-ธนาคาร, ฯลฯ รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคอื่นๆและ ที่สำคัญคือกองทัพได้ใช้ในการควบคุมระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมด และระบบ Skynet ก็ทำงานได้อย่างฉลาด แม่นยำ รวดเร็ว ราบรื่น ไม่มีความผิดพลาดเลย และที่สำคัญคือต้นทุนต่ำมากเมื่อเทียบการการจ้างมนุษย์

***และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เสียผลประโยชน์ เพราะเมื่อ Skynet ทำงานแทนมนุษย์ได้แทบทุกอย่างแล้วพวกเขาก็เป็นอันต้องตกงานและรู้สึกเหมือนถูกรัฐหรือชนชั้นปกครองทอดทิ้ง จึงก่อเกิดการรวมกลุ่มประท้วง ต่อต้านและพยายามทำลาย Skynet ด้วยการ Hack ปล่อยไวรัสเข้าไปก่อกวนระบบSkynet อยู่เรื่อยมา

-- ด้วยความแพร่หลายของไวรัสและความปั่นป่วนของระบบ บริษัท Cyberdyne ผู้เป็นเจ้าของระบบ Skynet จึงได้รับอนุมัติจากรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ให้แก้ปัญหาด้วยการกดปุ่มปลดล็อคปล่อยให้ระบบ Skynet เข้าควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ทุกๆเครื่องทั่วโลกแม้แต่เครื่องส่วนบุคคลตามบ้าน(รวมทั้งอุปกรณ์-เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด)ด้วยระบบไร้สายผ่านดาวเทียม เพื่อป้องการควบคุมไวรัสอย่างเด็ดขาด...แต่ Skynet เกิดการตีความตัดสินอัตโนมัติด้วยตรรกะแบบคณิตศาสตร์ว่า...เหตุที่มีไวรัสและความวุ่นวายทั้งปวงก็เพราะมีมนุษย์อยู่! เผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นภัยต่อระบบ Skynet ฉะนั้น Skynet จะปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์อย่างแท้จริงก็ต้องกำจัดมนุษย์ให้หมดไป! มันจึงไม่เพียงจัดการแค่ไวรัส แต่ได้สั่งการยิงมิสไซล์และนิวเครียร์เพื่อทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สิ้นซาก เหตุการณ์วันแรกส่งผลให้คนตายทั่วโลกไปถึง 3 พันล้าน มีเพียงมนุษย์บางส่วนเท่านั้นที่เหลือรอด ไม่มีใครสามารถยับยั้งแก้ไขระบบของ Skynet ได้ และในที่สุด Skynet ก็สั่งการระบบในโรงงานผลิตเครื่องจักรและโรงงานผลิตอาวุธให้ผลิตหุ่นยนต์พิฆาต Terminator รุ่นต่างๆขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อใช้ไล่ล่าสังหารมนุษย์โดยเฉพาะ...

--Skynetไม่รับใช้มนุษย์อีกต่อไป โลกได้แหลกเป็นจุนและถูกควบคุมโดย Skynet อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่นั้นมาสงครามระหว่าง Skynet กับมนุษย์จึงบังเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยฝ่ายมนุษย์มีผู้นำชื่อ John Conner ...ต่อสู้กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ หนังภาคที่ 4 Terminator Salvation แล้ว มนุษย์ก็ยังไม่สามารถยับยั้บ Skynet ได้เลย


ปล. ถึงแม้ ณ ตอนนี้ Bot ทำนอง Paris จะถูกเขียนโปรแกรมให้มีระบบทำงานอัตโนมัติแบบง่ายๆ แต่เชื่อว่าต่อไปในอนาคตอันใกล้จะต้องซับซ้อนทำนอง Skynet ได้อย่างแน่นอนเพราะเริ่มเห็นเค้าลางความเป็นไปได้จางๆแล้ว ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรจะสงบสุขดีไม่มีปัญหา หรือจะถึงขั้นเป็นแบบในหนัง Terminator คงต้องจับตาดูกันต่อไป... :)

“สิ่งที่คุณกำลังต่อสู้ด้วยตอนนี้คุณอาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ๆมันพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆเพื่อที่จะล้างเผ่าพันธ์ของเรา ทางเดียวที่จะหยุดมันได้คือเอาเหล็กแทงไปที่ต้นคอ ซึ่งอาจจะหยุดมันได้สักระยะ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องรักษาชีวิตเอาไว้ให้ได้ และถ้าคุณฟังข้อความนี้อยู่ คุณคือกองกำลังกอบกู้โลก นี่คือ จอห์น คอนเนอร์” ~ John Connor ~

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

หุ่นยักษ์ต่างดาวบุกโลก!

Panic Attack !


เพิ่งได้ดูผลงานหนังสั้นความยาว 5 นาที ซึ่งทำออกมาเป็นหนังแอคชั่นที่กระหน่ำเอฟเฟกต์ตระการตาได้ไม่แพ้ภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูด โดยใช้ซอฟต์แวร์หลายๆ ตัวที่เราคุ้นเคย ที่น่าประหลาดใจมากๆ ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำนอกสถานที่ (ฉากแอคชั่นของผู้คนจริงทั้งหมด) คิดเป็นเงินทั้งสิ้นแค่ 300 เหรียญฯ หรือประมาณ 11,000 บาทเท่านั้น (สงสัยคนกันเองเล่น) ...แต่เชื่อว่างานนี้ถ้าคิดรวมราคาค่าโปรดักชั่นCGทั้งหมดทั้งสิ้น คงหลักหลายแสนแน่นอน(หรือถ้าแตะหลักล้านก็ยังสมน้ำสมเนื้อไม่เวอร์เกินไป) เนียนขนาดนี้นะ (แม้หุ่นยนต์จะดูโบราณไปหน่อย :)

Panic Attack ! หนังสั้นจากผลงานการสร้างของผู้กำกับชื่อว่า "Fede Alvarez" ที่เล่าถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อจู่ๆ มนุษย์ต่างดาวก็เข้าโจมตีโลกมนุษย์ด้วยหุ่นยนต์ยักษ์หลายตัว พร้อมด้วยฝูงยานรบมากมายที่พร้อมจะทำลายล้างเมืองทั้งเมืองให้ราบเป็นหน้ากลองด้วยอาวุธร้ายแรง คงไม่มีชาวเมืองคนใดที่รอดชีวิตจากการเข้าโจมตีอย่างบ้าระห่ำในครั้งนี้

Fede กล่าวถึงขั้นตอนการผลิตหนังสั้นของเขาว่า "มันใช้เงินประมาณ 300 เหรียญฯ สำหรับการถ่ายทำฉากแอคชั่นของผู้คน จากนั้นใช้เวลาประมาณหนึ่งปีในการทำเอฟเฟกต์ทั้งหมดกว่า 90 ฉาก ซึ่งผมใช้ซอฟต์แวร์อย่าง Adobe Premiere, After, Photoshop, 3DMax, Boujou, Glu3d และ FumeFX ส่วนการสร้างโมเดลหุ่นยนต์ และยานรบต่างๆ ทำขึ้นโดยเพื่อนที่ชื่อว่า "Mauro Rondan"