วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

ในนามแห่งดอกไม้

ซีดี "COSMONAUT" อัลบั้มใหม่ล่าสุด 2011 ของวง "BUMP OF CHICKEN"


ประทับใจในท่วงทำนองแนวดนตรี-เสียงร้องเอกลักษณ์ของวงนี้ ติดตามฟังมานานหลายอัลบั้ม...แน่นอนฟังแต่ทำนอง แปลไม่ออกเพราะภาษาญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ใส่ใจนึกว่าคงเนื้อร้องทั่วๆไป...ยามว่างนึกสนุกเพิ่งลองหาดูคำแปลไทยหลายๆเพลงในตอนหลังไม่นานมานี้...ยิ่งนับถือในคุณภาพ...ไม่น่าเชื่อว่า วงร็อควัยสะรุ่น นอกจากสร้างสรรค์ทำนองได้เนี๊ยบแล้ว ยังจะแต่งเนื้อเพลงเอง ได้ละเมียดละไมขนาดนี้...ง "BUMP OF CHICKEN"


ตัวอย่าง...เพลง "ในนามแห่งดอกไม้" (花の名 / Hana no na) : เนื้อร้อง-ทำนอง : 藤原基央 / Fujiwara Motoo : จาก อัลบั้ม "Orbital Period"(2007) ซึ่งได้นำไปประกอบ End Credit ภาพยนตร์ Always ภาค 2 (หนังดีรอดูภาค 3 ปีหน้า 2012 :)



หน้าปก อัลบั้ม "Orbital Period"
BUMP OF CHICKEN สมาชิกในวงประกอบด้วย : 藤原基央 / Fujiwara motoo [ร้องนำ กีตาร์ เเต่งเนื้อร้อง, ทำนอง], 増川弘明 / Masukawa hiroaki [กีตาร์], 直井由文 / Naoi yoshifumi [เบสท์], 升秀夫 / Masu hideo [มือกลอง]

.......................................................................................................

Original MV : 花の名 / Hana no na / ในนามเเห่งดอกไม้




วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

แกะกล่อง "ไมเคิล วิชั่น"



แกะกล่อง DVD Boxset "Michael Jackson's Vision"



ดีวีดีออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว(2010) แต่ส่วนตัวเพิ่งได้มาสดๆร้อนๆเมื่อไม่กี่วันนี้เอง (เมษา 2011)...มันคือสุดยอด MV ทั้งชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน รวมอยู่ใน 3 แผ่น DVD ...ย้อนกลับไปดู...ก็ไม่ต้องบรรยายไรให้มากความ สุดตรีนจริงๆ... :)...คงอีกนานกว่าที่โลกจะมีศิลปินนักร้อง-นักเต้นที่ทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้สุดขีด จัดจ้าน! ขนาดนี้






วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

เว็บ "จักรวาล สตาร์วอรส์"


ขอแนะนำเว็บไซต์ใหม่ จักรวาล สตาร์วอรส์ : www.starwars.siligon.com
(ภาพลิงค์ที่โชว์ขวามือของ blog มาระยะหนึ่งแล้วนั้นเอง)

เจได (Jedi) : ใช้พลังด้านสว่าง : There is no emotion; there is peace. There is no ignorance; there is knowledge. There is no passion; there is serenity. There is no chaos; there is harmony. There is no death; there is the Force. : " ไร้ซึ่งอารมณ์ ย่อมมีความสงบ, ไร้ซึ่งความเขลา ย่อมมีปัญญาความรู้, ไร้ซึ่งความกิเลส ย่อมมีความปลอดโปร่ง, ไร้ซึ่งความตาย นั่นคือ พลัง" หลักคิดปรัชญาของ เจได

ซิธ (Sith) : ใช้พลังด้านมืด : Peace is a lie, there is only passion. Through passion, I gain strength. Through strength, I gain power. Through power, I gain victory. : "ความสงบนั้นหลอกลวง มีเพียงกิเลสเท่านั้น, เมื่อผ่านพ้นกิเลส ข้าได้พละกำลัง, เมื่อผ่านพละกำลัง, ข้าได้อำนาจ, เมื่อผ่านอำนาจ, ข้าได้ชัยชนะ, เมื่อผ่านชัยชนะ, พันธนาการข้าจะแตกสลาย, พลังจะปลดปล่อยข้า" หลักคิดปรัชญาของ ซิธ

จุดยืนที่แตกต่างกันอย่างคนล่ะขั้วอีกอย่างระหว่างเจไดกับซิธ ก็คือกรณีแนวคิดทางการเมือง : เจได นิยมการปกครองแบบ ระบอบสาธารณรัฐ ในขณะที่พวก ซิธ นิยมการปกครองแบบ ระบอบเผด็จการจักรวรรดินิยม นี่คือจุดที่ทำให้ เจได กับ ซิธ มิอาจร่วมจักรวาลเดียวกันได้!..บางส่วนจาก เว็บ จักรวาล สตาร์วอรส์

................................................

...มหากาพย์ Star Wars นอกจากให้ความบันเทิงฉากยิ่งใหญ่ตระการตาแล้ว ยังแฝงด้วยหลากหลายมิติที่ลุ่มลึก ทั้งมิติทางสังคม, มิติศิลปะ-วัฒนธรรม, มิติจิตวิญญาณ, มิตินวัตกรรมเทคโนโลยี ฯลฯ...เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่มีชีวิตร่วมสมัยในยุคศตวรรษ 20 คงต้องเคยดูภาพยนตร์ Star Wars อย่างน้อยก็ภาคใดภาคหนึ่งใน 6 ภาค…

...เว็บไซต์ที่แนะนำนี้ จะเปิดโลกทัศน์ เกร็ดข้อมูล-เรื่องราวในจักรวาลสตาร์วอรส์ อันนอกเหนือจากที่เคยสัมผัสกันในภาคภาพยนตร์ โดยเฉพาะที่มาจากภาคหนังสือการ์ตูน - เกมส์ และข้อมูลภาคพิเศษอื่นๆ ซึ่งสุดแสนจะตื่นตาตื่นใจ-ปลุกเร้าจินตนาการ! ไม่แพ้ภาคภาพยนตร์เลย และเชื่อว่าข้อมูลในเว็บนี้ จะมีน้อยคนนักในบ้านเราที่ได้เคยสัมผัสกันมาก่อน...ก็ลองเข้าไปชมครับ :)

- หนัง Star Wars 6 ภาค -


- Star Wars ภาคการ์ตูน 3D AnimationTV Series "The Clone Wars"กำลังฉายทางทีวี "จอร์จ ลูคัส"ผู้กำกับ กล่าวว่า ภาคทีวีนี้ มีโครงการจะสร้างออกมาถึง 100 episode! โดยแบ่งฉาย เป็น Season จำนวน 5 Seasons ด้วยกัน (1 season = ประมาณ 22 episode)-



- Star Wars เฉพาะที่เป็นภาคหนังสือนวนิยาย (Novel) ก็มากมายก่ายกองพะเนิน! ผลิดออกมา หลายร้อยซีรี่ย์! -

- Star Wars หนังสือการ์ตูน(Comic) ตีพิมพ์มาแล้ว นับ 1000! ซี่รี่ย์ และปัจจุบันก็ยังผลิตตอนใหม่ๆออกมา -

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

ตรา-แตร-ขันทั้ง 7 กลียุค 7 ปี!


ทุกศาสนา-ลัทธิ มักมีคำพยากรณ์เรื่อง การสิ้นยุค-กลียุค-ล้างโลก! ที่เรียกว่า "Apocalypse"

ลองมาดู : แตรทั้งเจ็ด ตราทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด กลียุค 7 ปี (จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่?)
คำพยากรณ์ในคำภีร์ ไบเบิ้ล... " ฤๅ มันกำลังจะเกิดขึ้นในยุคของพวกเรา! "

จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายที่จะประเดประดังทยอยเกิดขึ้น... (มีคนใจดีอุตสาห์ตัดต่อ-เรียบเรียงเป็นคลิปแชร์ในยูทูป...เจ๋งดี )...โปรดใช่วิจารณญาณ :)

- ตราทั้ง 7 -

เนื้อความ
ตอนหนึ่งในวิดิโอคคลิป..สะท้อนความจริงได้อย่างคมคาย...
ถาม : ทำไม เขา
(ผู้สร้างความขัดแย้งในสังคม-ก่อสงคราม) ถึงมีอำนาจมากขนาดนั้น?
ตอบ : เพราะเขารู้ที่จะนำมาซึ่งความเกลียด!

ตราที่1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบรรดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
ตราที่2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
ตราที่3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
ตราที่4 วิวรณ์ 6:7 มนุษย์ชาติตาย 1ใน4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
ตราที่5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
ตราที่6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน
ตราที่7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง

ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)

- แตรทั้ง 7 -


แตรที่1
ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1ใน3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
แตรที่2 ทะเลถูกทำลายลง 1ใน3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1ใน3
แตรที่3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
แตรที่4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1ใน3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
แตรที่5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมันทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
แตรที่6 มนุษย์ชาติ 1ใน3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
แตรที่7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครองเป็นนิจนิรันดร์

ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวาร เป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)

- ขันทั้ง 7 -


ขันที่1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
ขันที่2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
ขันที่3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
ขันที่4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
ขันที่5 มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัว แต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
ขันที่6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
ขันที่7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัม คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณา เกาะทั้งเกาะจะจมหาย.

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

มนต์เพลงสันติภาพ


"ภัยพิบัติธรรมชาติน่ากลัวที่สุดและควบคุมได้ยากอย่างที่ได้เห็นกันในข่าวทุกวัน...แต่ภัยจากมนุษย์กันเองก็น่ากลัวไม่แพ้กัน... และที่ตลกเศร้าก็คือ ภัยจากมนุษย์นั้นควบคุมง่ายนิดเดียว ก็แค่มนุษย์(โดยเฉพาะท่านมนุษย์คนใหญ่คนโตบางคน)หยุด! หยุดแก่งแย่งแข่งดี-หยุดเบียดเบียน-หยุดอิจฉาริษยา-หยุดอัตตา หยุด...ฯลฯ... สันติภาพก็เกิดขึ้นทันที...แต่ความจริงก็คือมนุษย์ไม่ยอมหยุด!...หรือบางทีลึกๆแล้วมนุษย์(โดยเฉพาะท่านมนุษย์คนใหญ่คนโตบางคน) อาจไม่ได้ต้องการสันติภาพจริงๆอย่างที่ปากพร่ำพูดก็เป็นได้...อาจเป็นเพียงแค่การพูดหรูๆให้ตนดูดีไปงั้นๆเอง"...ชาวบ้านธรรมดาตาดำๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็พลอยรับเคราะห์ไปด้วย

เผ่าพันธุ์มนุษย์ใฝ่ฝันพร่ำเพ้อเรื่องสันติภาพมาช้านานแต่มันยังไม่เป็น จริง... บทเพลงเรียกร้องสันติภาพ-เรียกร้องความสงบสุข-ต่อต้านสงคราม...ฯลฯ จึงยังคงขับกล่อมต่อไป

War : Bob Marley


That until there is no longer first class
And second class citizens of any nation
Until the colour of a man's skin
Is of no more significance than the colour of his eyes
Me say war
จนกว่าไม่มีพลเมืองชั้นหนึ่งและพลเมืองชั้นสองในชาติ...จนกว่าสีผิว-สีนัยน์ตาไม่มีความสำคัญอีกต่อไป....เราเอ่ย "สงคราม"...เนื้อร้องบางตอน


************************************************************

"Earth Song" : Michael Jackson


I used to dream I used to glance beyond the stars
Now I don't know where we are Although I know we've drifted far
ผมเคยฝัน เคยเฝ้าจ้องดวงดาวอันไกลโพ้น ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเราอยู่กันที่ไหน แต้รู้ว่าเราหลงทางกันมาไกลเหลือเกิน

Did you ever stop to notice All the blood we've shared before All the children dead from war
Did you ever stop to notice This crying Earth this weeping shores
คุณเคยหยุดสังเกตไหม...เลือดที่พวกเราร่วมกันเสียไป เด็กต้องตายจากสงคราม
คุณเคยหยุดสังเกตไหม...โลกกรีดร้อง ชายทะเลร่ำไห้...เนื้อร้องบางตอน


************************************************************

มนต์เพลงสันติภาพ ระดับตำนาน อื่นๆ