เพลงเก่า- แต่สุด ฟิน! จากภาพยนตร์เก่า แต่เก๋า! "Chariot of fire (1981)" เพลง Original ประพันธ์ดนตรีโดย Vangelis ...(เพลงที่ได้ถูกนำมาใช้พิธีเปิดโอลิมปิก 2012)
57 ปีต่อมา ตำนานของยอดนักวิ่งทั้งสอง ได้ถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ และกลายมาเป็นอีกหนึ่งตำนานของโลกเซลลูลอยด์ด้วยเกียรติยศระดับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ภายใต้ชื่อว่า Chariots of Fire ภาพยนตร์ที่มีชื่อภาษาไทยว่า "เกียรติยศแห่งชัยชนะ" เป็นผลงานกำกับของ ฮิวจ์ ฮัดสัน ผู้กำกับชาวอังกฤษ ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแรงบันดาลใจของทั้ง อับราฮัมส์ และ ลิดเดลล์ ซึ่งต่างต้องการพิชิตโลกด้วยฝีเท้าของตน โดยไม่หวังเกียรติยศชื่อเสียงเงินทองใดๆ แต่ต้องการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้โลกได้รับรู้ และจารึกชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่เร็วที่สุดในยุคสมัยของตนเองไปตลอดกาล
Chariots of Fire อาจจัดว่าเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิก แต่เนื้อแท้ของงานชิ้นนี้คือการนำเสนอเรื่องราวของการพิสูจน์ตน มากกว่าการเอาชนะคู่ต่อสู้ในเกมกีฬา ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงว่าด้วยการเดินทางของตัวเอกสู่เป้าหมาย โดยที่ไม่มีอุปสรรคเป็นตัวร้ายที่คอยแย่งชิงชัยชนะ แต่อุปสรรคอยู่ในจิตใจของตัวเองที่จะอุทิศตนเพื่อสู้ให้ถึงที่สุดหรือไม่ ภาพของน้ำใจนักกีฬาจึงถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะไม่มีความเป็นศัตรูหรือคู่แข่งเลยในระหว่างนักวิ่งด้วยกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีฉากอันประณีตสวยงามทั้งบรรยากาศในอังกฤษและสก็อตแลนด์ รวมถึงฉากการแข่งโอลิมปิก ที่เก็บรายละเอียดทุกอย่างของกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติเมื่อเกือบ 100 ปีก่อนได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนั้นแล้ว องค์ประกอบอีกอย่างที่กลายเป็นอมตะไปพร้อมกับตัวหนัง ก็คือดนตรีประกอบ ซึ่งเป็นผลงานของ "แวนเจลิส"(Vangelis) นักประพันธ์ดนตรีชาวกรีก ซึ่งช่วยขับเน้นให้ตัวหนังทรงพลังด้วยความมุ่งมั่น และความศรัทธาในพรสวรรค์ของตัวละครออกมาได้อย่าง สุดฟิน สมบูรณ์แบบ
สำหรับเกียรติยศสูงสุดของภาพยนตร์ชิ้นนี้ ก็คือการชนะรางวัล อคาเดมี อวอร์ดส์ (ออสการ์) ประจำปี 1981 ได้ถึง 4 สาขาด้วยกัน ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม, บทดั้งเดิมยอดเยี่ยม และออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม รวมถึงยังเข้าชิงอีก 3 สาขา ได้แก่ ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (เอียน โฮล์ม ในบท มุสซาบินี่) และ ตัดต่อภาพยอดเยี่ยม
Chariots of Fire จึงเป็นภาพยนตร์ที่แสดงภาพของกีฬาที่ยิ่งใหญ่กว่าการเอาชนะคู่แข่งในสนาม หรือ การแสวงหาชื่อเสียงเงินทอง แต่เป็นการพิสูจน์ความสามารถของตนเองให้โลกได้รับรู้ และการเอาชนะต่ออุปสรรคต่างๆนานาเพื่อจุดหมายที่ใฝ่ฝันนั้น มันคือเกียรติยศแห่งชัยชนะอันแท้จริง
"นี่คือภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิก ที่มีเนื้อหามากกว่าการกีฬา และมีคุณค่ามากกว่าเป็นแค่ภาพยนตร์เพื่อความบันเทิงเท่านั้นแต่เป็นงานที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่ได้รับชม และเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ชิ้นเยี่ยม ที่ไม่มีวันเลือนหายไปกับกาลเวลา คงอยู่เป็นมรดกบนแผ่นฟิล์มไปตราบนานเท่านาน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น