" Dirty Car Art " โดยศิลปิน Scott Wade
ต่อไปนี้รถใครฝุ่นเขลอะ อย่าไปล้าง เอาไอเดียนี้ไปใช้ 555
ดูหนังเรื่อง 2012 หรือยัง :)
ล่าสุดมีข่าวเกี่ยวกับ 2012...เดวิด มอร์ริสัน (David Morrison) นักวิทยาศาสตร์นาซ่า (NASA) เปิดเผยถึงข่าวที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วอินเทอร์เน็ตที่ว่า โลกจะถึงคราวสิ้นสุดลงในปี 2012 ด้วยเหตุผลทางดาราศาสตร์เป็นแค่"ข่าวลือ"เท่านั้น โดยด็อกเตอร์มอร์ริสันระบุว่า อาการ"วิตกจักรวาล" (cosmophobia) ถูกยัดเยียดโดยเว็บไซต์วิทยาศาสตร์ "จอมปลอม" และผู้ที่พยายามสร้างกระแสสื่อเพื่อหวังผลประโยชน์โดยการหาเงินจากความไม่รู้ของสาธารณชน...
ความเชื่อที่แพร่กระจายอยู่บนเน็ตที่ว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันโลกาวินาศ (doomsday) และมีการสร้างขึ้นเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในจักรวาลจะทำลายโลก กลายเป็นเรื่องหลอกลวง โดยคำยืนยันดังกล่าวมาจากด็อกเตอร์เดวิด มอร์ริสัน นักวิทยาศาสตร์นาซ่า ซึ่งข้อสรุปของคำอ้างต่างๆ และการโต้ตอบของนักวิทยาศาสตร์ที่มีต่อเรื่องดังกล่าว กำลังได้รับการเผยแพร่โดย สมาคมดาราศาสตร์แห่งภาคพื้นแปซิฟิก
หลายเดือนที่ผ่านมา ทางนาซ่า และนักบินอวกาศหลายคนได้รับจดหมาย และอีเมล์แสดงความวิกตกังวลจากข่าวสารที่มีการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตถึงความเป็นไปได้ที่โลกจะคราววินาศ และความสูญเสียของชีวิตมนุษย์อย่างมากมายในปี 2012 เหตผลและเงื่อนไขที่จะทำให้โลกแตกได้รับการนำเสนออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งชนของดาวเคราะห์ชื่อว่า "Nibiru" จุดดับบนดวงอาทิตย์ที่เกิดขึ้นอย่งต่อเนื่อง ตำแหน่งใหม่ของการจัดวางศูนย์กลางกาแล็กซี่ และอื่นๆ อีกสารพัด เดวิด มอร์ริสัน บัญญัติอาการหวาดวิตกต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "cosmophobia" ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้คนทั่วโลกในวงกว้าง
ปล.ได้ข้อมูลทำนองนี้คนที่วิตกกังวลคงอุ่นใจขึ้นบ้าง...แต่ก็ต้องไม่ลืมนะว่า การทำนาย "คลื่นยักษ์สีนามิ" ก็เคยได้รับการกล่าวหา+หัวเราะยอะจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำด้วยกันว่า...เพ้อเจ้อไร้สาระมาแล้ว...และในที่สุดผลปรากฏออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นที่รู้กัน...
หนังไทย 2022 สึนามิวันโลกสังหาร (ด...คุณ ชลิต เฟื่องอารมณ์ ตีบทแตก)
แลมมาค(Lamarck) เพื่อนชาร์ลส์ ดาร์วิน(Charles Darwin) มีความเชื่อว่า สิ่งมีชีวิตจะถ่ายทอดลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่มีอยู่ไปสู่รุ่นต่อไป...ยีราฟวิวัฒนาการมาจากสัตว์ที่คล้ายกวาง นั่นก็คือลำคอของสัตว์จำพวกนี้จะค่อยๆยืดออกไปตามกาลเวลาจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากมันพยายามที่จะเอื้อมไปกินใบไม้ที่อยู่บนกิ่งสูงๆ และ Lamarck ก็มีไอเดียที่น่าสนใจว่า... ถ้าแขนของคนในสมาชิกในครอบครัวถูกตัดออกเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน เด็กที่เกิดขึ้นมาใหม่ในภายหลังก็จะเริ่มแขนกุดหรือไม่มีแขน!...
ยังไม่มีใครยืนยันว่าทฤษฎีวิวัฒนาการจะจริงแท้แค่ไหน แต่วิถีชีวิตผู้คนในโลกก็ถูกครอบงำโดยทฤษฎีวิวัฒนาการไปแล้วกว่าค่อนโลกนับแต่อดีตยันปัจจุบัน! (ทุกคนต่างมุ่งแข่งขันมุ่งแพร่พันธุ์ของตนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ 555 ...อาจไม่ได้แสดงออกมาในรูปการแพร่พันธุ์ทางร่างกายอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการขยายพันธุ์แบบอื่นๆด้วย อาทิ ขยายพันธุ์สาขาธุรกิจ แพร่พันธุ์สินค้า-ผลิตภัณฑ์ แพร่พันธุ์ความเชื่อของตน ฯลฯ :)
เท่าที่พิจารณาดู ทฤษฎีวิวัฒนาการจะเป็นจริงปราศจากข้อกังขา ก็ต่อเมื่อปรากฏว่ามีสิ่งที่มีชีวิตที่มีรูปลักษณ์อยู่ในช่วงครึ่งๆกลางๆที่กำลังจะกลายพันธุจากชนิดหนึ่งไปสู่อีกชนิดหนึ่ง เช่น กรณีสัตว์เลื้อยคลานวิวัฒนาการไปเป็นนก ก็จะต้องมีฟอสซิลที่อยู่ในลักษณะทำนองครึ่งตัวเป็นนกอีกครึ่งตัวเป็นสัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์เช่นนั้นก็จะต้องมีอวัยวะที่ยังไม่สมบูรณ์หรือยังไม่พัฒนาเป็นตัวนกจริงๆเต็มรูปแบบ...แต่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทำนองนี้ชัดเจนนัก (เท่าที่เห็นตอนนี้ก็มีแต่ นักการเมืองบ้านเรา หลายท่านกำลังอยู่ในช่วงวิวัฒนาการไปเป็นสัตว์เลื่อยคลาน... อุ๊ปป!!)
โดยส่วนตัวไม่ซีเรียสว่า ทฤษฎีวิวัฒนาการจะจริงหรือไม่ เพราะไม่มีใครตอบได้หรอกว่าอะไรจริงแท้ 100% ขึ้นอยู่กับหลักฐาน เหตุผล กับความเชื่อส่วนบุคคล อาจจะจริงบางมุมแต่อาจจะไม่จริงในบางแง่มุมก็ได้...แต่ถ้าเราลองมองทฤษฎีวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทฤษฎีวงการอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ศิลปะ ปรัชญา ศาสนา สังคมศาสตร์ เศรษฐศสตร์ ฯลฯ ให้เป็นความบันเทิงเยี่ยงวรรณกรรมชิ้นหนึ่งแล้ว จะพบว่า ทฤษฎีต่างๆล้วนเป็นวรรณกรรมชั้นเยี่ยม บ้าดี! มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เต็มไปมุมมองพล็อตเรื่องอันน่าพิศวง อาทิ เรื่องหลุมดำ บิ๊กแบ๊ง สสารพลังงาน สิ่งมีชีวิตต่างดาว แนวคิดของพระเจ้าสร้างจักรวาล ทะเลนอกจักรวาล(สีทันดร) แนวคิดเรื่องสังคมประชาธิปไตย สังคมคอมมิวนิสต์ ฯลฯ โดยเฉพาะทฤษฎีวิวัฒนาการ แนวคิดที่ว่าด้วย...สัตว์เซลล์เดียว...การกลายพันธุ์แบบผ่าเหล่าฉับพลัน(Mutation) ...เป้าหมายของธรรมชาติ...ฯลฯ...ล้วนอุดมไปด้วยจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นแหล่งให้แรงบัลดาลใจและไอเดียใหม่ๆได้เสมอ แม้ในที่สุดมันจะเป็นเรื่องไม่จริงหรือเรื่องโกหกก็ตาม...
บางทีเรื่องโกหกอย่างมีหลักการก็ทำให้โลกมีสีสันไม่น่าเบื่อจนเกินไป นะ :)