วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"ราชันย์ ออฟโรด"


" Hummer "

รถออฟโรดตัวพ่อ! ดุ-หล่อ-ดีไซน์แรง-มีเอกลักษณ์ รถในฝันของใครหลายคน(รวมทั้งข้าพเจ้าด้วย ฝันต่อไป..ฮึๆๆ) รถระดับนี้ อย่าพยายามคิดคำนวณเรื่องความจำเป็นและคุ้มค่าล่ะครับ แยกให้ออก มันเป็นเรื่องของ Passion ! หรือแรงปรารถนาอันแรงกล้า...ถ้าซื้อไม่ได้ แต่มีใจรัก ก็ให้ดูเป็น Art เป็น Design เผื่อได้แรงบัลดาลใจดีๆ...(แต่ถ้าอยากได้จริงๆก็ลองไปขอมหาเศรษฐีอย่าง ท่านนายกทักษิณ เจ้าสัวธานินทร์ หรือเสี่ยเจริญ ...เผื่อฟลุค ล้อเล่นนะ 55 :)

รูปล่างนี่คือ Hummer HX Concept นวัตกรรมรุ่นล่าสุดของ Hummer

The Hummer HX Concept. A Vision of The Future of OFF-ROADING.


ประวัติศาสตร์ความเป็นมาโดยสังเขป : จาก HMMWV สู่ HUMMER

"HMMWV" (High Mobility Multipurpose Wheeled Vehicle) หรือ "Humvee" : "ฮัมวี่" เกิดจากความต้องการรถบรรทุกทางทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกา ในช่วงทศวรรษ 70 โดยได้ออกแบบรูปร่างและสเปคที่ต้องการ แล้วให้บริษัทที่สนใจนำไปสร้าง นั้นคือบริษัท AM General หลังจากนั้นบริษัท AM General ได้สร้างรถต้นแบบออกมาในปี 1979 ในรหัส M998 หรือที่เรียกต่อมาภายหลังว่า "ฮัมวี่" และนำมาให้กองทัพทดสอบ ผลเป็นที่พอใจอย่างมาก กองทัพจึงตัดสินใจสั่งให้ AM General ผลิตและส่งมอบเจ้า ฮัมวี่ เป็นจำนวนถึง 55,000 คัน ภายในปี 1985 โดยเจ้าฮัมวี่ เข้าร่วมปฏิบัติการสำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สงครามอ่าวเปอร์เซียอิรักบุกคูเวต ที่รู้จักกันในชื่อ "ปฏิบัติการพายุทะเลทราย(Dessert Strom)"สงครามปลดปล่อยอิรักในปี 2003 หรือแม้แต่การเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภายุเฮอร์ริเคน แคทรินา ในเมืองนิวออลีน ซึ่งยานพาหนะทั่วไปเข้าถึงได้ยากในช่วงหลังเกิดเหตุ

การได้เข้าร่วมปฏิบัติการสำคัญต่างๆ ที่รถธรรมดาไม่สามารถทำได้ ก็เนื่องมาจาก ความพิเศษของเจ้า ฮัมวี่ ที่สามารถเดินทางเข้าไปในทุกที่ได้แม้จะไม่มีถนนหนทาง แถมยังลุยน้ำได้โดยเครื่องไม่ดับ ด้วยสเปคที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เช่น ความสูงจากพื้นถนน 41 ซม. น้ำมันเต็มถังเดินทางได้ถึง 550 กม. ความเร็วสูงสุดกว่า 120 กม./ชม และตัวถึงซึ่งดัดแปลงได้นับสิบรูปแบบ สามารถติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารได้มากมายไม่ว่าจะเป็น ปืนกล หรือมิสไซล์

นอกจากจะติดตั้งอาวุธได้แล้ว เจ้า ฮัมวี่ ยังสามารถดัดแปลงเป็นรถพยาบาล หรือติดตั้งจานดาวเทียมเพื่อเป็นรถสื่อสารได้อีก ความพิเศษต่างๆ ของเจ้าฮัมวี่ ทำให้เกิดความต้องการจากผู้บริโภคที่อยากจะใช้รถ ฮัมวี่ บนถนนธรรมดาบ้าง ปี 1999 ทาง AM General จึงได้ออกแบบ-ผลิต H1 ขึ้นมาเพื่อออกจำหน่าย ภายใต้ชื่อแบรนด์ "Hummer" : "ฮัมเมอร์" โดยมี เจเนรัล มอเตอร์ (GM) ทำหน้าที่จัดจำหน่าย และก็มีรุ่น H2 และ H3 พัฒนาต่อเนื่องมาจาก H1 เป็นที่ประทับใจของผู้ใช้และผู้ที่ได้พบเห็นจนเจ้า Hummer ได้รับฉายาว่า "The King of Off Road" หรือ "ราชันย์ ออฟโรด" เรื่องราคาก็ไม่แพงมากสบายๆ อยู่ในช่วงประมาณ 5-10 ล้านขึ้นไปแล้วแต่รุ่น(..ราคานี่ยังไม่รวมภาษีนะ...ถ้ารวมแล้วต้อง คูณ 2 เข้าไป ก็ประมาณ 10-20 ล้าน) ส่วนเรื่องการบริโภคน้ำมัน ค่าอะไหล่ บำรุงรักษา จิปาถะ ฯลฯ รถราคาระดับนี้คงรู้ๆกันอยู่... แต่มีเงินซื้อ Hummer จะมากังวลเรื่องพวกนี้ให้เสียเวลาทำไม...เอาเวลาไปนั้งดูดโอเลี้ยงไม่ดีกว่ารึ...อย่างที่บอก เล่นรถระดับนี้ คงต้องมองข้ามความคุ้มค่ากันล่ะ มันเป็นเรื่องของ "Passion!"ใจรัก+ความสามารถในการจ่าย

Hummer : H1


Hummer : H2 (อาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ ก็ใช้รุ่นนี้)


Hummer : H3 (รุ่นนี้ออกแบบขนาดเล็กลง-ประหยัดน้ำมันลงหน่อยประมาณ 20 mile/gal หรือประมาณ 6-8 กิโล/ลิตร)


..........................


และ Hummer ก็ได้พัฒนามาถึงรุ่น "Hummer HX" รุ่นล่าสุด นอกจากรูปลักษณ์ดีไซน์เฉียบเหนือระดับแล้ว ยังออกแบบให้มีเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยต่างๆมากมายและที่สำคัญคือประหยัดพลังงาน ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่เสียใจด้วยจริงๆรุ่นนี้เป็น Concept Design ยังไม่มีการผลิตออกวางจำหน่าย แต่ก็ได้สร้างต้นแบบของจริงแบบสมบูรณ์เกือบ 100% ออกให้ชาวโลกได้ยลโฉมกันแล้วในปี 2008 ได้ข่าวว่าจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการประมาณปี 2010 ส่วนราคายังไม่เปิดเผยชัดเจน (ยังไงก็เตรียมเงินไว้พลางๆก่อนนะ :) ... ฮัมเมอร์ รุ่น HX นี้ GM มอบหมายให้ Designer นักศึกษาจบใหม่ชั้นเซียน 3 คน จากมหาวิทยาลัย Detroit ร่วมกันรังสรรค์รูปลักษณ์ อันได้แก่ David Rojas, Min Young Kang, Robert Jablonski ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ Hummer HX และโฉมหน้านักออกแบบทั้ง 3 ท่าน ในวิดิโอคลิปด้านล่างนี้เลย


รูปบนนี้สังเกตดีๆ เห็น iPhone หรือ iPod Touch ไหม ซ้ายมือนั้นไง :)

สนใจดูรายเอียดเพิ่มเติม ไปที่ http://www.hummer.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น