วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Viva La Vida - สดุดีชีวิต

"Viva La Vida"

อัลบั้มที่ออกวางแผงจำหน่ายครั้งแรกปี 2008 ชื่อเต็ม “Viva la Vida - Death and all his friends” โดย Alternative rock พันธุ์อังกฤษ นาม "Coldplay"

"Viva La Vida" (Prospekts March Edition) ชุดพิเศษล่าสุด Deluxe Edition : Special limited quantity : Two-disc set : ซีดีแผ่น1 เป็นเพลงเดิม 10 เพลง, แผ่นที่2 มี 8 เพลงเป็นการนำเพลงเดิม 2เพลงนำมาเพิ่มลูกเล่นคือนั้นเพลง "Lost" และ "Lovers In Japan" ส่วนเพลงที่แต่งขึ้นใหม่มี 6 เพลง เยี่ยมทุกเพลงโดยเฉพาะ "Life In Technicolor ii " (เพลงนี้ในCDแผ่นแรก เป็นทำนองดนตรีอย่างเดียวไม่มีเนื้อร้อง)

"Viva La Vida" จัดว่าเป็นอัลบั้มเพลงชุดที่ดีที่สุดชุดหนึ่งของโลกในศตวรรษที่ 21 นี้ : การสร้างสรรค์ลูกเล่น-จังหวะดนตรีอันมีเอกลักษณ์ + ความงามแห่งท่วงทำนองที่ทันสมัยหมดจดลงตัว

............................

“Viva La Vida” เป็นภาษาสเปนมีความหมายว่า Long Live Life, หรือ Live the life เป็นคำไทยประมาณ"สดุดีชีวิต" -"ชีวิตจงเจริญ"อะไรเทือกนั้น งานออกแบบปกซีดี(ตอนออกมาครั้งแรกสุด) เป็นภาพ "Liberty Leading the People" โดยจิตรกร "เออแชน เดอลากรัว(Eugène Delacroix)" ชาวฝรั่งเศส

Liberty Leading the People : โดย จิตรกร Eugène Delacroix,
1830 สีน้ำมันบนผ้าใบ

ภาพ Liberty Leading the People แสดงเหตุการณ์ "การปฏิวัติเดือนกรกฎาคม" หรือ "July Revolution"... "เดอลาครัวซ์" เลือกที่จะใช้หญิงสาว(ตัวแทนเทพีสันติภาพ)เป็นสัญลักษณ์นำมวลชลลุกขึ้นต่อสู้ โดยท่อนบนผ้าขาดและหลุดเห็นหน้าอกของเธอเปลือยเปล่าเปื้อนไปด้วยฝุ่นผงมอมแมม...แทบเท้าของเธอเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ผู้เสียสละ

ฝรั่งเศส กรกฎาคม 1830 ประชาชนพร้อมใจกันออกมาเดินขบวนมายังกรุงปารีสเพื่อประท้วงกษัตริย์พระเจ้าชาร์ลส์ ที่10 การประท้วงนำไปสู่เหตุการณ์จลาจล เกิดการปะทะกัน ประชาชนล้มตายจำนวนมาก กองกำลังปฏิวัติเข้าบุกยึดศาลาว่าการกรุงปารีสได้สำเร็จนำโดยนักการเมืองสายเสรีนิยมและได้จัดตั้งรัฐบาลรักษาการขึ้น แม้ต่อมาจะยังมีการต่อสู้หลงเหลืออยู่ในบางจุดและยังมีการตั้งกษัตริย์ขั้นใหม่ การต่อสู้ดำเนินต่อไปจนในที่สุดขบวนการปฏิวัติก็ได้รับชัยชนะ ประเทศฝรั่งเศสจึงเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น "ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐโดยสมบูรณ์" ในเวลาต่อมา

การที่ "Coldplay" นำภาพ "Liberty Leading the People" เป็นภาพปก และเพลง Viva la Vida - สดุดีชีวิต ซึ่งเป็นชื่ออัลบั้ม...จะพบว่าเนื้อหาเพลงนี้วนเวียนอยู่เรื่องการกษัตริย์, อำนาจ และคณะสงฆ์คริสตศาสนาจักร...ท่วงทำนองดนตรีที่มีจังหวะ ตื่นเต้น, ปลุกระดม, การผจญภัย, ความหวัง, การปลดปล่อย, อิสรภาพ, ฯลฯ เป็นเครื่องแสดงว่า Theme หลักๆของอัลบัมนี้(ไม่เฉพาะเพลง "Viva la vila" รวมทั้งเพลงอื่นๆในอัลบั้มด้วย)ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งาน มาจากชีวิตพระเจ้าชาร์ลส์ ที่10 - ศริสตจักร และ บรรยากาศมวลชนใน July Revolution ?



ตัวอย่างเนื้อเพลง Viva La Vida ท่อนแรกของเพลง
(แปลไทยเป็นกลอนมีสัมผัส โดย bosie.exteen.com สนใจเนื้อเพลงเต็มๆก็ลองคลิกเข้าไปอ่านดู)

I used to rule the world
Seas would rise when I gave the word
Now in the morning I sleep alone
Sweep the streets I used to own
ข้าเคยเป็นราชาครองแผ่นฟ้า
คลื่นทะเลซัดซาเมื่อข้าสั่ง
ครั้นตื่นมาตัวข้าอยู่ลำพัง
มือสองปัดกวาดถนนตามข้างทาง

I used to roll the dice
Feel the fear in my enemies’ eyes
Listen as the crowd would sing:
"Now the old king is dead! Long live the king!"
เคยเดิมพันเล่นตลกเห็นเป็นโชค
ศัตรูโศกหมดกล้าน่าสิ้นหวัง
ข้าเคยฟังไพร่ฟ้าเปร่งเสียงดัง
"โอ ราชันย์สิ้นลง ทรงพระเจริญ "
ฯลฯ

ส่วนเนื้อเพลงต้องการจะบอก-สื่ออะไรกับผู้ฟัง จะสดุดีชีวิตอย่างไร? ก็สุดแท้แต่วิจารณญานแต่ละคนจะตีความกันไป อันการตีความงานดนตรีนั้น ลำพังเนื้อเพลงอย่างเดียวไม่พอ จะต้องพิจารณาถึงจังหวะ-ท่วงทำนองเพลงให้ลึกซึ้งถ่องแท้ด้วยว่า มีจังหวะจะโคนสัมพันธ์กับเนื้อร้องอย่างไร บางทีจังหวะเสียงดนตรีก็สำคัญกว่าเนื้อร้อง ภาพศิลป์หนึ่งภาพบอกเรื่องราวมากว่าพันล้านตัวอักษรฉันใด เสียงดนตรีก็ฉันนั้น เพลงบางเพลงไม่จำต้องมีเนื้อร้องก็สามารถสื่อความหมายได้ อันงานศิลป์ชั้นยอดย่อมทิ้งช่องว่างให้ผู้เสพได้มีอิสระในการจินตนาการเสมอ

1 ความคิดเห็น: