สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย และมวลน้ำกำลังมุ่งหน้าโจมตีเมืองหลวงของไทยอยู่ในขณะนี้ ว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่รุนแรงเพิ่มขึ้น
รายงานเปิดเผยว่า เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์สถานการณ์คล้ายกันว่า ในอีก 39 ปีข้างหน้า หรือปี ค.ศ.2050 ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้น 19-29 เซนติเมตร ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากทะเลเพียง 30 กิโลเมตร
ทั้งนี้รายงานข่าวอ้างคำพูดของ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ว่า ถ้ายังไม่มีมาตรการใดๆ เลย ภายใน 50 ปีข้างหน้านี้ พื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล
โดยธนาคารโลก, ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และธนาคารแห่งญี่ปุ่นเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (JBIC) ระบุว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นยังไม่ใช่แค่ปัญหาเดียว แต่การขุดเจาะน้ำบาดาลเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคของโรงงานอุตสาหกรรมและคนเมืองหลว ยังส่งผลให้พื้นดินเขตกรุงเทพมหานครทรุดต่ำลงเฉลี่ยปีละ 10 เซนติเมตรในช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 ผลการศึกษาซึ่งเผยแพร่ในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตารม เดวิด แม็คคอลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของเอดีบี กล่าวว่า “ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้อีกแล้ว กรุงเทพมหานครจะไม่ยกตัวสูงขึ้นอีก”
ด้าน ฟรองซัวร์ มอลล์ ผู้เชี่ยวชาญการจัดการน้ำจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่า การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กรุงเทพได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงมากขึ้น ในอนาคตกรุงเทพจะต้องจมอยู่ใต้น้ำอย่างแน่นอน แต่คำถามสำคัญก็คือ เมื่อไหร่
- คลิป นักวิชาการไทยให้ความรู้ กทม.จมน้ำ - ภัยพิบัติโลก-
ดูภาพใหญ่คลิก http://flood.firetree.net/?ll=15.5701,100.0745&z=10&m=14
มาวันนี้กระแสตื่นกลัวน้ำท่วมโลกกลับมาอีกครั้ง ด้วยสภาวะโลกร้อนตามหลักวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่ใช่แค่คำทำนายลอยๆจากผู้วิเศษลึกลับ น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายส่งผลให้ปริมาณน้ำในทะเลเพิ่มขึ้น ผู้ทรงคุณวุฒิที่น่าเชื่อถือหลายท่านหลากสำนักทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ผู้เคยพยากรณ์เรื่อง จะเกิดสึนามิในภาคใต้ อย่างถูกต้องมาแล้ว ต่างออกมาพยากรณ์เตือนว่า อีกไม่เกิน อย่างเร็ว 8ปี อย่างช้า30 ปี(นับจากปี2008) กรุงเทพและอีกหลายจังหวัดในไทยจะจมน้ำอย่างแน่นอน(จมถาวรไม่ใช่น้ำท่วมชั่วคราว!) แผนที่ด้านบน สีน้ำเงินเข้มคือ บริเวณที่จะจมน้ำ
"ผมไม่ใช่หมอดู แต่มันคือ "หน้าที่" "หน้าที่ผมคือการเตือนภัย โอกาสผิดก็มี...แต่โอกาสถูกมีมากว่า" ดร.สมิทร ธรรมสโรช
มีคำทำนายอีกชุด บอกว่าเหตุการณ์เมืองจมน้ำนี้จะเกิดขึ้นอีกแค่ 4 ปีเท่านั้น นั้นคือคำทำนาย 2012!! นอกจากเหตุผลทางสภาวะโลกร้อนที่เป็นกระแสหลักแล้ว เหตุผลอื่นๆที่สนันสนุนคำทำนาย 2012 ทั้งวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์ ดังต่อไปนี้ (ข้อมูลจากคัดลอกมากจากเว็บไซต์หลากหลากแหล่ง โปรดใช้วิจารณญาณ)
Episode 1. ปี 2012 แกนโลกพลิกตัว(Pole Shift)
2. การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก
. . . . .
. . . . .
ปฏิทินมายา กล่าวว่า วันที่ 21-12-2012 เป็นวันที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ คือ วันวิปโยคสิ้นโลก! เผ่ามายาอยู่ทางทวีปอเมริกาเหนือ มีการสืบสายวัฒนธรรมรวมถึงสิ่งก่อสร้าง ปิรามิด และวัดนับพันแห่ง มีปฏิทินของตนเองที่ได้รับการพิสูจน์ถึงความถูกต้องทางดาราศาสตร์ มากกว่าพันปีปฏิทิน ความเชื่อของชาวมายาจึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นกุญแจพิศวง ด้านจิตวิญญาณ สำคัญของคนแถบอเมริกาเหนือ...
...***นักแปลอักษรโบราณผู้เชี่ยวชาญเผย... ชาวตะวันตกถอดความปฏิทินชนเผ่ามายาผิด ชี้ที่จริงโลกไม่แตก แต่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เท่านั้น...สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 2 ธ.ค. ว่า ข้อความจารึกที่วัดของชนเผ่ามายา ในทอร์ทูกัวโร ซึ่งเคยถูกตีความไว้ว่า 2012 จะเป็นปีที่โลกถึงวันดับสูญ จากมหาภัยพิบัติต่าง ๆ อาทิ หลุมดำดูดกลืน ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์พุ่งชน หรือะไรก็ตาม แต่ล่าสุด สเวน โกรเนเมเยอร์ นักแปลอักษรโบราณผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมนี จากมหาวิทยาลัยลาโทรบ ในออสเตรเลีย เผยว่า "มีความเป็นไปได้สูงว่า การถอดความนั้นมีความคลาดเคลื่อน อาจจะไม่ใช่คำทำนายวันโลกาวินาศ แต่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่" ส่วนการถอดความวันสิ้นโลก เป็นการแปลความหมายแบบผิดๆ ของชาวตะวันตก ซึ่งก่อให้เกิดความตื่นกลัวกันไปเองทั้งนี้ เมื่อปลาย พ.ย.ที่ผ่านา มีรายงานว่า ปฏิทินของชนเผ่ามายา ไม่ได้มีเพียงแค่ชิ้นเดียว แต่ชิ้นที่ 2 ทางการเม็กซิโก ได้เก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีมานานหลายปีแล้ว...