วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รำลึก "ราชินีลุงหนวด!"


24 พฤศจิกา วัน "Freddie Mercury" แห่งวง "Queen" ลาโลก ด้วยโรค เอดส์ !
(รูป-video วัย 40 แต่การแสดงคอนเสิร์ต ยังคงจัดจ้าน พลังเสียงเหนือชั้น)


Queen Greatest Hits 3 แผ่น : อัดแน่นด้วยคุณภาพเข้มข้นทั้ง 3 แผ่น (ควรซื้อ 2 ก็อบปี้ ชุดหนึ่งไว้เปิดฟัง อีกชุดเก็บไว้บนหิ้งบูชา :)


เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นกฎของชีวิต...ทุกคนต้องเจอ!...คงเหลือแต่แรงบัลดาลใจให้คนรุ่นหลัง "Freddie Mercury" (เรียกลุงหนวด เพราะแก่กว่าพ่อ! ) ในนามแห่งวงดนตรี "Queen" ...ถึงแม้บ้างด้านของชีวิตส่วนตัวจะดูสับสน โดยเฉพาะกรณีรักร่วมเพศ !(เฉพาะ Freddie แต่สมาชิกในวงรู้สึกจะไม่) ...แต่เขาและ วง Queen คือหนึ่งในสุดยอดแรงบันดาลใจอันโดดเด่นในด้านงานเพลงดนตรีอันประณีต - ความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ - การทุ่มเทกับงานที่ทำอย่างสุดชีวิต - พลังเสียงร้องหาตัวจับยาก

วง Queen ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน คือ "Freddie Mercury" ร้องนำและเปียโน, "Brian May" กีตาร์, "Roger Taylor" กลอง และ "John Deacon" เบส

ก่อตั้งเมื่อปี 1969 โดย Brian May และ Roger Taylor ในชื่อว่า "Smile" ก่อนมีการปรับเปลี่ยนสมาชิกโดยได้ Freddie Mercury เข้ามาในปี 1970 จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Queen และได้ John Deacon เข้ามาร่วมวงในปี 1971 เป็นหนึ่งในวงอังกฤษที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก กับ สตูดิโออัลบั้ม 15 อัลบั้ม (ไม่รวมที่แต่ละคนไปทำอัลบั้มเดี่ยวส่วนตัว)

Mercury เกิดเมื่อ 5 กันยายน 1946 (ถ้ายังไม่ตายตอนนี้ก็อายุ 60 กว่า!ไปแล้ว)มีเชื้อสายปาร์ซี(แขกขาวเปอร์เซียพวกหนึ่ง) เติบโตในอินเดีย และย้ายมาอยู่อังกฤษในภายหลัง ถือเป็นร็อกสตาร์ชาวอังกฤษเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ประสบความสำเร็จเป็นที่นิยมสูงสุด เขาเสียชีวิตจากภาวะหลอดลมใหญ่และปอดอักเสบ อันเกิดจากการติดเชื้อเอชไอวี หรือ เอดส์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991 ด้วยวัยเพียง 45 ปี ... หลายเพลงของวง Queen โด่งดังกลายเป็นตำนานกล่าวขวัญกันจนถึงทุกวันนี้ ที่คุ้นเคยสำหรับคนไทยในศตวรรษที่20 ถึงแม้ไม่ใช่แฟนเพลงและไม่เคยรู้จักวง Queen เลยก็ตาม ก็ต้องได้ยินได้ฟังผ่านหูบ้างแน่นอนคือ เพลง"We will rock you" และ "We are the champian"(เพลงบอลโลก 1994) ส่วนเพลงที่โดดเด่นเป็นตำนานท็อประดับโลกก็คือ "Bohemain Rhapsody" แต่งโดย Mercury

Rolling Stone จัดอันดับ 100 ศิลปินยอดเยี่ยนตลอดกาล Mercury อยู่ในอันดับ 18 (Michael jackson อันดับ 25 ดูรายการลำดับทั้งหมด คลิกที่นี่ )... ปี 2002 กินเน็สบุ๊ค จัดให้ประชาชนส่งรายชื่อ เพลงอังกฤษที่เป็นที่ชื่นชอบตลอดกาล ผลโหวต อันดับ 1 ก็คือ Bohemain Rhapsody ...อันดับ 2 คือ Imagine ของ John lennon ...และอันดับ 3 Hey jude ของ The Beatles ... และ MV Bohemian Rhapsody ก็ยังจัดได้ว่าเป็นนวัตกรรมสุดแหวกแนว เป็นที่ฮือฮากันในวงการเพลงยุคนั้น...


................................................


ส่วนตัว...ถ้าเลือกสุดยอดเพลงซึ้ง คมคายที่สุดของ Queen ขอเสนอเพลงนี้...

"Too much love will kill you "


เพลงยอดเยี่ยมรางวัลมากมาย ทำนองไพเราะงดงาม พลังเสียงเหนือชั้น ความหมายบาดใจ เนื้อเพลงโดย"Brian May" มือกีตาร์คนเก่ง เพลงนี้บรรจุอยู่ในอัลบั้มสุดท้าย(ชุด 15) ชื่ออัลบั้ม "Made in heaven" อันมี Mercury บันทึกเสียงร้องก่อนเสียชีวิตอีกไม่กี่ปีต่อมา และกว่าอับบั้มจะจำหน่ายเผยแพร่ในนามวง Queen เป็นอัลบั้มสุดท้ายก็ 6 พ.ย. 1995 หลัง Mercury เสียชีวิตไปแล้ว 4 ปี!

I'm just the pieces of the man I used to be
Too many bitter tears are raining down on me
I'm far away from home
And I've been facing this alone
For much too long
ฉันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของชายที่เคยเป็น
หยดน้ำตาอันสุดขมขื่นหลั่งไหลท่วมท้น
ฉันไกลจากบ้านเสียเหลือเกิน
และฉันต้องเผชิญกับสภาพเช่นนี้ เพียงลำพัง เป็นเวลายาวนาน...

I feel like no-one ever told the truth to me
About growing up and what a struggle it would be
In my tangled state of mind
I've been looking back to find
Where I went wrong
ฉันรู้สึกเหมือนไม่มีใครเคยบอกความจริงกับฉัน
ว่าเมื่อเติบโตขึ้นแล้วจะต้องต่อสู้ดิ้นรนขนาดนี้
ภายใต้สภาพอันสับสนของจิตใจ
ฉันมองย้อนกลับไปเพื่อค้นหา
ฉันได้ทำอะไรพลาดไป...

Too much love will kill you
If you can't make up your mind
Torn between the lover
And the love you leave behind
You're headed for disaster
'cos you never read the signs
Too much love will kill you Every time
...รักที่มากเกินไปจะฆ่าคุณ
ถ้าคุณไม่สามารถทำใจ
ความร้าวฉานระหว่างคู่รัก
และรักที่คุณทิ้งไว้เบื้องหลัง
คุณจะถูกนำไปสู่หายนะ
เพราะคุณไม่เคยสังเกตุสัญญาณลางร้ายที่เกิดขึ้น
รักที่มากเกินไปฆ่าคุณได้ ทุกเวลา

I'm just the shadow of the man I used to be
And it seems like there's no way out of this for me
I used to bring you sunshine
Now all I ever do is bring you down
ฉันเป็นเพียงเงาของคนที่ฉันเคยเป็น
และมันดูเหมือนไม่มีทางออกสำหรับฉัน
ฉันเคยเป็นเหมือนผู้นำแสงสว่างแด่เธอ
แต่บัดนี้ทุกอย่างที่เคยกระทำกลับส่งเธอให้ทุกข์ทรมาน

How would it be if you were standing in my shoes
Can't you see that it's impossible to choose
No there's no making sense of it
Every way I go I'm bound to lose
มันจะเป็นอย่างไร ถ้าคุณสามารถอยู่ในจุดเดียวที่ฉันยืน
คุณเห็นไหมว่าไม่มีทางเลือกเลย
โอ้ไม่..แม้ว่าจะดูไร้เหตุผลก็ตาม
ทุกย่างก้าว ล้วนลิขิตฉันสู่ความสูญเสีย

Too much love will kill you
Just as sure as none at all
It'll drain the power that's in you
Make you plead and scream and crawl
And the pain will make you crazy
You're the victim of your crime
Too much love will kill you Every time
รักที่มากเกินไปจะฆ่าคุณ
พอๆกับการไม่มีใครเลย
มันจะบั่นทอนพลังในตัวคุณ
ทำให้คุณวิงวอน กรีดร้อง ล้มลงคลาน
และความเจ็บปวดจะทำให้คุณบ้าคลั่ง
คุณตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมที่คุณก่อขึ้นเอง
รักที่มากเกินไปฆ่าคุณได้ ทุกเวลา...

Too much love will kill you
It'll make your life a lie
Yes, too much love will kill you
And you won't understand why
You'd give your life, you'd sell your soul
But here it comes again
Too much love will kill you In the end...
รักที่มากเกินไปจะฆ่าคุณ
มันจะทำให้ชีวิตคุณเป็นแค่สิ่งหลอกลวง
ใช่... รักที่มากเกินไปฆ่าคุณได้
และคุณก็จะไม่มีทางเข้าใจหรอกว่า เพราะอะไร
คุณจำต้องให้ชีวิต คุณจำต้องขายวิญญาณ
มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความรักที่มากเกินไปจะฆ่าคุณ ในที่สุด

....................................


ชีวิต(รัก)ส่วนตัว Mercury

Mary Austin คนรัก Mercury (จากการู้จักผ่าน Brian May มือกีตาร์) คบหากันหลายปี แต่ก็เลิกรากันไปในภายหลัง โดยไม่มีลูก...แต่ Mercury กับ Austin ยังคงเป็นเพื่อนที่ดี และติดต่อไปมาหาสู่กันเรื่อยมา Mercury ยังเป็น พ่ออุปถัมภ์ให้ ลูกของ Austin อีกต่างหาก

Jim Hutton คู่เกย์! Mercury ใช้ชีวิตด้วยกันหลายปีตราบจน Mercury เสียชีวิต ( ปัจจุบัน Hutton ก็เสียชีวิตไปแล้ว)
Freddie Mercury ในมิวสิควิดิโอ "These are the days of our lives"
MV สุดท้ายของชีวิต (เพลงเพราะมากอีกเพลงหนึ่ง เสียงร้องยังคงยอดเยี่ยม) สภาพผอมซูบผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด แทบเป็นคนละคนกัน

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Thai OS - ฟอนต์ไทยแห่งชาติ (คนไทยจะใช้ไหม?)


ไทย โอ เอส

เป็นซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการที่สามารถใช้งานได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป โดย SIPA เห็นว่าการที่ประชากรในชาติจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการที่เป็น ซอฟต์แวร์เชิงพานิชนั้น นอกจากจะสิ้นเปลืองและไม่ปลอดภัยแล้ว เราจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย ทาง SIPA จึงพัฒนาระบบปฏิบัติการ Suriyan ที่เป็นระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สทั้งระบบขึ้นมาให้ใช้งาน เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ต้องการความประหยัด และความปลอดภัย ที่สามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืน จากความสำเร็จในการพัฒนา Suriyan การตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ SIPA จึงประกาศการพัฒนา Thai OS เพื่อให้เข้ากับคนไทยได้มากขึ้น


ความเป็นมาของ Thai OS

Suriyan เป็นโครงการภายใต้การดูแลของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า ซึ่งเริ่งโครงการเมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยเป็นโครงการพัฒนาลินุกซ์เซิร์ฟเวอร์พร้อมใช้ (instant server) ให้ชื่อว่า Suriyan GNU/Linux การพัฒนา Suriyan ในแง่มุมของการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ยังไม่เเพียงพอ อีกทั้งการตอบรับยังไม่กว้างพอ ทำให้การพัฒนาโครงการ Suriyan GNU/Linux ล่าช้าลงและลดบทบาทการพัฒนาในเวอร์ชัน 1.0 สำหรับโครงการ Suriyan GNU/Linux ยังสามารถดาวน์โหลดได้ที่ suriyan.org

ในปี 2550 KDE วางแผนการออกรุ่น 4.0 อีกทั้งยังขาดการปรับปรุงภาษาไทยใน KDE 4.0 Suriyan จึงได้เบนเข็มไปเป็นโครงการพัฒนาภาษาไทยใน KDE โดยใช้ Kubuntu เป็นต้นน้ำและพัฒนาไลบรารีภาษาไทย เพื่อรองรับการแสดงผลและการพิมพ์ภาษาไทยในเบื้องต้น และส่ง patch เข้าไปที่ต้นน้ำ (KDE) เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภายในของ KDE การควบรวมทีมพัฒนา KDE เข้ากับทีม Nokia ส่งผลในการรับ patch ล่าช้าและ patch ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกรับเข้าไปยังต้นน้ำ การพัฒนาภาษาไทยบน KDE และการพัฒนาภาษาไทยใน Suriyan ในรุ่นถัดมาจึงล่าช้าลงไปอีก


ในปี 2551 ทีมงาน Thai Open Source.org ซึ่งประกอบด้วยนักพัฒนาอิสระและชุมชนระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์ส เห็นว่าโครงการ Suriyan ควรปรับปรุงและจัดทำออกมาให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ต้นปี 2552 จึงได้มีการวางโครงสร้างและการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยศึกษาการพัฒนาจากระบบปฏิบัติการจากชุมชน Ubuntu ในประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ Suriyan เลือกใช้ Ubuntu ที่ใช้ GNOME เป็น Windows Manager หลัก และเลือกใช้ Club Distro Prompt Edition 9.05 เป็นต้นแบบในการพัฒนา Suriyan 52.0 ในเดือนตุลาคมถัดมา ปัจจุบัน Suriyan ใช้ Ubuntu เป็นต้นแบบในการพัฒนา โดยเพิ่มเติมแอพลิเคชั่น ฟอนต์ภาษาไทย ปรับปรุงเคอร์เนล และส่วนติดต่อผู้ใช้ เพื่อให้เกิดความง่าย ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนจาก Windows มาใช้งาน Suriyan ได้ง่ายมากขึ้น Suriyan Desktop พัฒนาต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงรุ่น 53.04

Download ThaiOS ได้ที่ http://thaios.sipa.or.th/

การตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ SIPA จึงประกาศการพัฒนา Thai OS โดยเพิ่มความสามารถเพิ่มเติมให้กับระบบปฏิบัติการ Suriyan เดิมเพื่อให้เข้ากับคนไทยได้มากขึ้น เพิ่มฟอนต์ภาษาไทยมาตรฐานกว่า 40 ฟอนต์ ส่วนขยายที่จำเป็นของ FireFox ส่วนขยายเพิ่มเติมของ OpenOffice.org 3.3 พร้อมโปรแกรมสำรองข้อมูลและพื้นเก็บข้อมูลเชื่อมโยงกับ Cloud Storage เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ที่มากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น

................................................


ครม.เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการ โละฟอนต์ต่างชาติ บังคับใช้ 13 ฟอนต์ไทยในงานราชการ

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยดำเนินการติดตั้งฟอนต์สารบรรณและฟอนต์ อื่น ๆ ทั้งหมด จำนวน 13 ฟอนต์ ของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (สอซช.) หรือ SIPA และกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มเข้าไปในระบบปฏิบัติการ Thai OS (Thai Operating System) และใช้ฟอนต์ดังกล่าวแทนฟอนต์เดิม ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้ติดตั้งและใช้งานให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2553

ทั้ง นี้ สืบเนื่องจาก ปัจจุบันส่วนราชการจำนวนมากมีการใช้ฟอนต์ที่หลากหลาย ไม่มีมาตรฐานในเอกสารทางราชการ อีกทั้งยังมีหน่วยงานราชการหลายแห่งใช้มาตรฐานฟอนต์ของบริษัทเอกชนที่ผูกขาด ลิขสิทธิ์ เช่น Angsana อาจมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ได้

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงได้มีการพัฒนาและมีการประกวดแข่งขันฟอนต์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้ Open Source Software ที่เป็นซอฟต์แวร์เสรีให้ส่วนราชการไทยประกาศมาตรฐานเอกสารดิจิตัลและรูปแบบ ของฟอนต์ที่ไม่ขึ้นกับระบบปฏิบัติการและลิขสิทธิ์ของบริษัทใด ๆ เพื่อความภาคภูมิใจในความเป็นชาติและเอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย ซึ่งในขณะนี้มีฟอนต์ที่ส่วนราชการไทยสามารถเป็นเจ้าของและพร้อมแจกจ่ายให้ กับผู้ประสงค์จะใช้งานรวม 13 ฟอนต์ ดังนี้

ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.f0nt.com/release/13-free-fonts-from-sipa/

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ไมเคิล จัดฉากตาย ลวงโลก?

ไมเคิล จัดฉากตาย ลวงโลก!
ดูวิดิโอคลิป ตั้งข้อสังเกตจับข้อพิรุธ !



....................................

Sony ต้นสังกัดประกาศ อัลบั้มเพลงชุดใหม่ของซุปเปอร์สตาร์ ผู้ล่วงลับ? "ไมเคิล แจ็คสัน" โดยรวบรวมผลงานเพลงที่ไม่เคยเผยที่ไหนมาก่อน เตรียมออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกใน 14 ธ.ค. เป็นการส่งท้ายปี 2010 ชื่อเรียกง่าย ๆ ว่า Michael โดยภาพปกเป็นฝีมือของช่างเขียนภาพผู้โด่งดัง คาเดียร์ เนลสัน (จิตรกรคู่บารมีไมเคิล ไมเคิลอุดหนุนสะสมผลงานเขามาเหนียวแน่นยาวนาน) ซึ่งสร้างสรรค์ภาพสีน้ำมัน เพื่อบอกเล่าช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆ ในชีวิตของศิลปินผู้ล่วงลับ

ก็ไม่ใช่สิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายนักที่อัลบั้มชุดใหม่ของ ไมเคิล จะออกวางจำหน่ายภายหลังการเสียชีวิตของเขา เพราะยังไงก็จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีในฐานะผู้ล่วงลับระดับตำนาน! และก็เป็นที่รู้กันดีในหมู่แฟนคลับว่า ไมเคิลมีผลงานเพลงที่ไม่ได้เผยแพร่เก็บเอาไว้มากมาย โดยปกติในการผลิตผลงานเพลงสักชุด ไมเคิล จะแต่งและบันทึกเสียงเพลงเป็นจำนวนมาก บางครั้งอาจมากถึง 30 เพลงต่ออัลบั้มหนึ่งชุด เพื่อคัดเลือกเพลงที่เขาคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการออกจำหน่ายเท่านั้น

และก็ไม่ใช่เรื่องแปลงที่ Sony จะมีการผลิตสินค้าที่เกี่ยวของกับ ไมเคิล อีกมากมาย กระหน่ำจัดจำหน่ายโกยเงินส่งท้ายปี 2010 นี้ อีกระลองหนึ่ง ทั้งการขุดกรุรวบรวมผลงาน MV เป็น DVD Boxet , การสร้าง Game Computer ชุดใหม่, ไปจนถึง Bible ชีวประวัติ... ฯลฯ (ถ้ามีสิทธิ์ที่จะเอาชิ้นส่วน กระดูก ตับไต ฯลฯ มาประมูลขายได้คงประมูลไปแล้ว...แซว :)

............................................


มาที่ประเด็น ไมเคิล จัดฉากตาย ลวงโลก! กันต่อ

เว็บไซต์แฟนพันธุ์แท้ชื่อ ไมเคิล แจ็คสัน ยังไม่ตาย อ้างแกล้งทำเป็นสิ้นชีพ เพื่อหลีกหนีวิกฤตมรสุมชีวิตถาโถม ระบุหนีข้ามพรมแดนไปเม็กซิโก โดยเจ้าตัววางแผนเรื่องนี้มานับสิบปีแล้ว


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2010 ว่า เว็บไซต์ประเภทแฟนพันธุ์แท้ ไมเคิล แจ็คสัน ต่างออกมาอ้างทฤษฎีแกล้งตายกับราชาเพลงป๊อปผู้นี้ โดยเว็บไซต์ http://www.michaeljacksonsightings.com/ เปิดเผยว่า แท้จริงไมเคิลยังไม่ตาย แต่เขาพยายามหนีวิกฤตแรงกดดันต่างๆ ที่ถาโถมเข้าสู่ชีวิตเขา โดยเว็บไซต์ดังกล่าวอ้างภาพชายรายหนึ่งหันหลังไม่เห็นใบหน้าที่ระบุว่าคือ ไมเคิล แจ็คสัน ที่ถูกถ่ายไว้เมื่อวันอาทิตย์ หรือ 3 วันก่อนที่จะมีประกาศเสียชีวิต พร้อมทั้งอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐด้วยว่า ได้พบเห็นไมเคิลและชายอีกรายได้ข้ามพรมแดนรัฐแคลิฟอร์เนียและเม็กซิโก โดยชายดังกล่าวตัดผมสั้น ใส่แว่นตาดำ

ภาพชายลึกลับท่าทางคล้าย ไมเคิล แจ็คสัน ที่แฟนคลับเชื่อว่าเป็นตัวจริงและยังมีชีวิตอยู่ และ ตัวอย่างอีกคลิปจับพิรุธแกล้งตายด้านล่าง

ทั้งนี้ เว็บไซต์นี้ถูกเปิดขึ้นมาเพื่อบอกความจริงแก่แฟนๆของไมเคิล พวกเขารู้สึกว่า ไมเคิล ถูกบังคับให้แกล้งตายเหมือนบริษัทที่จำเป็นต้องล้มละลาย เว็บไซต์ Jackson Faked His Own Death บอกว่า "ไมเคิลยังคงต้องการจะติดต่อกันแฟนๆ แต่เขาต้องการหนีห่างพวกผู้มีอำนาจที่ต้องการจะควบคุมบงการเขาเพื่อผลประโยชน์นานาประการ รวมทั้งพวกสื่อที่ต้องหาประโยชน์จากการใส่ร้ายสร้างข่าวเสียๆให้เขา จนเขาต้องกดดันจากการเสียความเป็นส่วนตัวมาเป็นระยะเวลายาวนาน"

รูปด้านล่างนี้ หนังสือ รวบรวมข้อมูลเผยปม การแกล้งตายเชิงลึก(มาก) ภาคภาษาไทยออกมา 2 เล่ม ผู้เขียนคนเดียวกัน...เป็นข้อมูลประวัติศาตร์การวางแผนแกล้งตายที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้วในโลก ,การเมืองเบื้องลึกที่บีบคั้นให้ไมเคิลต้องตายหลอก, ทฤษฎีสมคบคิดในปฏิบัติการร่วมมือกันของหลายฝ่ายในการวางแผนแกล้งตายของไมเคิลอย่างแนบเนียน, แถมยังมีข้อมูลพิลึกๆที่ยากใครจะเชื่อหลังการแกล้งตายเช่น ไมเคิล คือผู้อยู่เบื้องหลังหนังดังอย่าง 2012, Avatar และ Alice in wonderland ???... แฟนพันธุ์แท้ สนใจลองหามาอ่านดูครับ ส่วนตัวคิดว่าข้อมูลจะจริงเท็จอย่างไรคงไม่สำคัญหรือมีผลกระทบอะไรนักกับชีวิตคนไทยบ้านๆเราๆ... แต่ที่น่าสนใจคือ มันคือสุดยอดแห่งพล็อตเรื่องอันซับซ้อนหักมุม บันเทิงไม่แพ้วรรณกรรมนวนิยายชั้นเลิศ เลยทีเดียว


วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หน้าเหมือน มนุษย์ต่างดาว!


เด็กผู้ชายคนนี้เป็น โรคชราในเด็ก
(แล้วเอาอะไรเป็นมาตรฐาน มนุษย์ต่างดาวหน้าตาประมาณนี้... :)


สาเหตุ : โรคชราในเด็กโรคชราในเด็ก Hutchinson-Gilford Progeria Syndrome (HGPS) เกิดจากความผิดปกติของยีน LMNA ตำแหน่งที่ 1824 ทำให้เกิดการแทนที่ของ cytosine ( cytosine คือ 1 ใน 5 สารพื้นฐานใน DNA ) ด้วย thymine ( thymine คือ 1 ใน 4 สารพื้นฐานในกรด nucleic ของ DNA ) ทำให้ร่างกายสร้าง Lamin A ขึ้นมาซึ่งจะเป็นตัวขัดขวางการพัฒนาของนิวเคลียร์ ( nucleus )

การรักษา เยียวยา : โรคชราในเด็กไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ ได้แต่รักษาตามอาการ เช่นถ้ามีไขมันอุดตันในเส้นเลือด ก็ให้กินยา แอสไพลิน หรือทำ Bypass หัวใจ หรือกินโฮโมนเพิ่มเติมในส่วนที่บกพร่องไป

................................................

- มาว่าด้วย ข่าวคราวมนุษย์ต่างดาว เมื่อไม่นานมานี้ -

ข่าว UFO โผล่ในจีนจนต้องปิดสนามบิน เมื่อเดือน กรกฎา 2010
สนามบินในจีนต้องปิดทำการหลังจากพบเห็นวัตถุลึกลับลักษณะเป็นจุดสว่างเคลื่อน ที่เป็นแนวโค้งด้วยความเร็วสูงบนเหนือน่านฟ้ามณฑลเจ้อเจี้ยงเมืองหังโจว ยานบินลึกลับ หรือ UFO ที่ปรากฎขึ้นมาให้เห็นบนท้องฟ้าจะมีลักษณะเป็นแสงสีขาวสว่างวาบดูน่าสะพรึง กลัว โดยเมื่อเคลื่อนที่ผ่านไปแล้วแสงสีขาวจะยังทอดเป็นหางยาว


.................................................

ชาวฮานอยแตกตื่น UFO! โผล่ขณะผู้นำอาเซียนประชุม ในค่ำวันพฤหัสบดี 28 ต.ค.2010

ผู้ที่ใช้ชื่อว่า "จิมมี หว่าง" (Jimmy Hoang) จากนครออตตาวา เขียนลงในเว็บไซต์ของเวียดนามเอ็กซ์เพรสว่า ปรากฏการณ์แบบนี้เห็นได้ประจำเหนือท้องฟ้าประเทศแคนานาดา ที่มีอากาศเย็นกว่าในเวียดนาม บางครั้งมองเห็นเป็นทางที่ยาวมากจากขอบฟ้าด้านหนึ่งไปจรดอีกด้านหนึ่ง...แต่แม้ผู้อ่านจำนวนมากดูจะพอใจคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ แต่หลายคนซึ่งแม้จะเชื่อว่า ปรากฏการณ์ที่เห็นเมื่อวานนั้นไม่ใช่วัตถุลึกลับอะไร แต่ก็ยังไม่พอใจต่อคำอธิบายเกี่ยวกับ "ลำแสงสีเหลืองส้ม" ที่เห็น เวียดนามเอ็กซ์เพรสกล่าว.


....................................................

27 กันยายน 2010 อดีตนายทหารกองทัพอากาศสหรัฐจำนวน 6 นาย แถลงข่าว

หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐปิดบังข้อมูลเรื่องภัยคุกคามระบบอาวุธนิวเคลียร์ของUFO ถึงแม้จะถูกห้ามไม่ให้เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะก็ตาม แต่พวกเขาต้องการบอกความจริง ที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมา...เหตุที่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เกิดขึ้นเมื่อ 16 มี.ค.ปี 1967 ที่ฐานทัพกองทัพอากาศสหรัฐในเมืองมอนตาน่า พวกเขาเห็นกับตาว่า มีวัตถุลึกลับบินอยู่เหนือฐานทัพ และได้ทำให้ระบบขีปนาวุธขัดข้อง จากนั้น สัปดาห์ต่อมา ยังเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ ที่ฐานทัพอากาศสหรัฐในสถานที่อื่นๆด้วย

และเมื่อปี 2003 ที่ผ่านมา พบว่า แผ่นจานวงกลมขนานใหญ่บินอยู่เหนือบริเวณฐานทัพ ทำให้ระบบขีปนาวุธนิวเคลียร์ขัดข้องหลายเครื่อง นอกจากนี้วัตถุแผ่นจานกลม ได้ยิงแสงยังฐานทัพอากาศเบนต์วอเตอร์ของอังกฤษ และยังลงจอดในบริเวณพื้นที่เก็บอาวุธนิวเคลียร์ด้วย

“เราพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง กองทัพอากาศสหรัฐกำลังโกหกเกี่ยวกับภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติจากวัตถุลึกลับฯต่อฐานทัพนิวเคลียร์ และดูเหมือนจะเมินเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะแจกจ่ายเอกสารรัฐบาลที่สามารถยืนยันปฎิบัติการโจมตีของยูเอฟโอ ต่อฐานทัพนิวเคลียร์” พวกเขากล่าว



ต่ออีกหน่อย (ข้อมูลเก่า หลายปีมาแล้ว) ...มนุษย์ต่างดาวติดต่อคนไทย!

ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน อ้างว่าได้เคย สัมภาษณ์มนุษย์ต่างดาว 2 ตน รายละเอียดบางตอน ดังนี้

ถาม : ทำไมท่านจึงมาติดต่อกับผม เพราะบังเอิญหรือเพราะอะไร?

ตอบ : การมาติดต่อกับท่าน ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ พวกเราติดต่อกับสายพันธุ์เดียวกันเท่านั้นหรือจะเรียกตามภาษามนุษย์ว่า มีกรรมพัวพันกันก็ได้ มนุษย์ต่างดาวจะมาที่โลกนี้ใน 3 รูปแบบ คือ

1)มาในรูปมนุษย์ต่างดาว อย่างพวกเราขณะนี้
2)มาในแบบถูกส่งมาจุติให้เป็นมนุษย์ ตัวท่านเอง( ดร.เทพนม) ได้ถูกส่งลงมายังโลกนี้ห้าพันกว่าปีแล้ว มีหน้าที่ประสานงานระหว่างมนุษย์กับต่างดาว
3)วิญญาณของมนุษย์ต่างดาวเข้าสิงอยู่ในตัวมนุษย์

ถาม : ขอให้ท่านให้ความกระจ่าง เกี่ยวกับมนุษย์คู่แรกบนโลกนี้ว่า มาจากไหนกันแน่? มาจากลิงใช่หรือไม่?

ตอบ : มนุษย์ไม่ได้พัฒนามาจากลิงอย่างที่เข้าใจกัน ตามความเป็นจริง มนุษย์เพศชายคนแรกที่พวกท่านเรียกว่า”อาดัม”นั้น ถูกสร้างขึ้นมาที่ดาวนพเคราะห์ดวงหนึ่งนอกระบบสุริยะของท่าน พระผู้สร้างได้ให้พวกเรา นำมนุษย์ผู้นั้นมาไว้ยังโลกนี้ และต่อมาได้สร้างมนุษย์เพศหญิง ที่พวกท่านเรียกว่า “อีฟ” ขึ้นมาอีกคนหนึ่ง และให้นำมาอยู่ด้วยกัน จนสืบเชื้อสายมีลูกหลานกันมากมายไปทั่วโลก พวกเราเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของพวกท่านเหมือนกัน มีหน้าที่คอยดูแลช่วยเหลือพวกท่านอยู่เสมอมา ในระยะ 200 กว่าปีที่ผ่านมา มนุษย์เจริญทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมามาก แต่ทางด้านศีลธรรม และจริยธรรม กลับพัฒนาได้น้อยมาก เมื่อมนุษย์ค้นพบพลังงานใหม่ เช่นพลังปรมาณู ก็นำไปใช้สร้างอาวุธทำลายล้างกัน แทนที่จะนำไปใช้ในด้านพัฒนาสุขภาพและสันติภาพ

ถาม : มนุษย์ต่างดาว จะมายังโลกนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากใครก่อนหรือเปล่า?


ตอบ : มนุษย์พิเศษจากดาวอื่นๆ จะมายังโลกนี้ ต้องขออนุญาตจากสมาคมระหว่างดวงดาวก่อนเสมอ หรือถูกส่งให้มาช่วยเหลือในบางเรื่อง แต่เมื่อมาถึงโลกนี้ ก็ยังต้องรายงานกับ”ผู้ตรวจโลก” ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่ มนุษย์ต่างดาวที่แอบมาก็มีเหมือนกัน คือ มาโดยไม่ขออนุญาตก่อน ส่วนมากพวกนี้เป็นพวก”ไม่ดี” ซึ่งมีอยู่เหมือนกัน แต่เป็นจำนวนน้อย ปีที่แล้ว มีพวกกลุ่มไม่ดี ได้แอบเข้ามาในโลกของท่าน ด้วยยานอวกาศลำใหญ่ขณะมิติเปิด ขณะนี้สำหรับประเทศไทย กลุ่มไม่ดีลอยอยู่ในบริเวณเขาผีปันน้ำ ในภาคเหนือของประเทศท่าน หากพบยานบินสีดำ อย่าไปยุ่งเกี่ยวด้วย อันตรายมาก……

ถาม : เมื่อ 6 สิงหาคม 2542 ผมได้รับเชิญจากองค์การนาซ่าและInternational Space University ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมาจัดประชุมอยู่เงียบๆอยู่ที่มหาวิทยาลัยสุรนารี ให้ไปพูดถึงเรื่อง”การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยูเอฟโอ และผู้ขับขี่ยานบินในประเทศไทย พ.ศ.2540-2542″ และได้รับคำชมเชยจากฝรั่งนักวิชาการ 300 กว่าคนว่า ทำวิจัยได้ดีมาก ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องที่นาซ่าคิดจะไปยึดดาวอังคารทำเหมืองแร่ และส่งคนไปอยู่ 50,000 คน ใน 20 ปีข้างหน้านี้ และทำไมจานบินของท่านมาแล้ว ไม่ยอมบินลงมาต่ำตามที่ขอร้องให้ฝรั่งเห็นทั่วกัน?

ตอบ : เราไปฟังอยู่ตลอดเวลา และไม่พอใจอย่างมาก ที่เขาคิดจะไปยึดดินแดนที่มีเจ้าของแล้ว เช่นที่เคยทำมาในโลกนี้ในอดีต ขอบอกสั้นๆว่า หากรบกัน ก็ไม่มีทางสู้พวกเราได้ ขอให้บอกแก่พวกเขา 3 ข้อ คือ

1)จานบินและมนุษย์ต่างดาวนั้น มีจริง และได้มาเยือนโลกนี้ เป็นเวลานานหลายพันปีแล้ว มนุษย์เปรียบเสมือนลูกหลานของเรา

2)มนุษย์ต่างดาว ไม่ต้องการมายึดครองโลกนี้ ในทำนองเดียวกัน มนุษย์ก็ไม่ควรคิด จะไปยึดครองดวงดาวของเรา เพราะมีเจ้าของแล้ว และไม่มีทางสู้เราได้

3)ขอให้มนุษย์ใช้สติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาโลกนี้ดีกว่า รวมทั้งเตรียมรับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นในโลกนี้

ยานอวกาศของเรา อาจบินไปให้บางคนเห็น แต่เราไม่บินลงต่ำ เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไร...


- ? ? ? -