วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

!!Genpets ของเล่นมีชีวิต!!



หลายคนคงได้รับ Forward Mail เกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้างแล้ว(ตั้งแต่ปี 2550) ผมได้รับอีเมล์นี้ซ้ำๆหลายรอบบางเมล์ ก็จั่วหัวเพิ่มเติมโดยผู้ส่งต่อด้วยความตื่นตระหนก อาทิ "Genpets ของเล่นที่มีชีวิตจริง!! โลกวิปริตขึ้นทุกวัน! , นวัตกรรมเพี้ยน!" แต่โดยส่วนตัวประทับใจในวิธีคิดนอกกรอบ(ถึงแม้จะเกิดอาการจุก!อย่างแรงก็ตาม)ของผู้สร้าง Genpets นี้เป็นพิเศษนะ...ฮึๆๆๆ...จึงขอนำมาเสนอกันอีกรอบ...หลายคนอาจยังไม่เคยเห็นและบางคนอาจยังไม่รู้เบื้องหลังที่มา...

ขอเดาว่า คนคิดของเล่นชิ้นนี้ขึ้นมา คงเคยมาเมืองไทย แล้วบังเอิญได้ดูหนังเรื่อง "ขุนแผน" จึงได้ "ลูกกรอกกุมารทอง" เป็นแรงบันดาลใจ...

เรื่องของกระแสเทคโนโลยีชีววิศวกรรมที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน อันเป็นเทคโนโลยีที่นำหลักการทางวิศวกรรมมาเป็นแกนในการศึกษาและพัฒนาระบบชีววิทยาสมัยใหม่ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ทางด้านชีวภาพและการแพทย์ เช่น ผิวหนังสังเคราะห์ หรืออวัยวะเทียม เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีชีววิศวกรรมนี้เกิดขึ้นแล้ว และพวกเราพร้อมหรือยังที่จะรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น...



ในรูปคือ "GENPETS" เกิดจากกระบวนการ Zygote Micro Injection แล้วก็เติบโตขึ้นในแล็บ เป็นการผสมและปรับแต่ง DNA จากสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่าง ๆ ออกมาเป็น Genpets ดังนั้น Genpets จึงมีชีวิตจริง ๆ หายใจได้ มีเลือด กระดูก และกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าโดนบาดหรือตัดออก ก็จะมีเลือดไหลออกมา และถ้าดูแลผิด Genpets นี้ก็จะตายได้เหมือนกับสัตว์ทั่วไป หากเสียชีวิตก็นำไปฝังดินเช่นเดียวกันสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ หรือจะส่งกลับไปที่ศูนย์บริการของบริษัทก็ได้ เจ้า Genpets นี้ไม่ต้องใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ เนื่องจากมันมีชีวิตจริง แหล่งพลังงานของของ Genpets ก็คือ life monitoring devices ที่อยู่ในแพ็จเกจของ Genpets เอง โดยขณะที่ Genpets แขวนรอขายอยู่บนชั้นวางสินค้า จะมีสายให้อาหารที่ทำขึ้นพิเศษ เพื่อให้ Genpets มีชีวิตอยู่อย่างสงบรอคนที่จะมาซื้อ


Genpets สามารถ นำออกมาจากแพ็คเกจได้ เรียกได้ว่าเป็นเหมือนตุ๊กตาที่มีชีวิต โดยได้รับการออกแบบให้เหมือนกับเด็กแรกเกิด เส้นผมของ Genpets ก็จะสามารถงอกยาวออกมาได้ เล็ก น้อย สามารถลืมตาได้เมื่อนำออกจากแพ็จเกจ สำหรับการเคลื่อนไหวในรุ่นแรกนี้ สามารถบิดตัวได้ เล็ก น้อยแต่ไม่ถึงกับคลานหรือเดินได้ อาหารของ Genpets จะเป็นอาหารพิเศษ ที่จำหน่ายโดยบริษัทผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะให้ครั้งหนึ่งต่อสัปดาห์." ...



..............................................................



เนื้อหาข้างบนทั้งหมดนี้คือคำอธิบายส่วนหนึ่งเกี่ยวกับ "Genpets" ในเว็บไซต์ http://www.genpets.com/

เว็บไซต์และร้านค้าขาย Genpets จัดขึ้นมาอย่างสมจริงและเป็นทางการ



***จะบอกว่า...เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับ Genpets ข้างบนนี้

!! เป็นเรื่องโกหกนะครับ !!

ความจริงก็คือ...ทั้งหมดที่เห็นในสื่อต่างๆ ไม่ว่า ตัว Genpets เอง, เว็บไซต์Genpets, ร้านค้าขายตัวGenpets, รูปภาพโฆษณาต่างๆ ฯลฯ...เป็นแค่วิธีการแสดงงานศิลป์แนวใหม่!! วัตถุประสงค์เพื่อเสียดสีวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ และทดสอบกระแสการตอบรับของสังคม ของ ศิลปินหนุ่มชาวแคนาดา นามว่า "Adam Brandejs"

เชื่อว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกับการแสดงงานศิลป์ไม่ว่าจะเป็น จิตรกรรม ประติมากรรม ฯลฯ ในห้องแกเลอรี่แบบตรงไปตรงมา หรือไม่...แบบที่หวือหวา-แปลกประหลาดหน่อยก็เป็นแนวศิลปะการจัดวางวัตถุ ที่เรียกว่า "Installation Art" ซึ่งถึงยังไงก็ยังมีการประกาศให้รู้อย่างเป็นทางการว่า นี้คือการแสดงงานศิลปะนะ... แต่พอมาเจอไอเดียการนำเสนอผลงานศิลปะของนาย Adam Brandejs นี้ เล่นเอาโลกช็อคไปตามๆกันเป็นประเด็นถกเถียงกันยกใหญ่ ด้วยนึกว่าเป็นของจริง! วางขายจริงๆ!... เรียกว่าลวงโลก(อย่างสร้างสรรค์)ได้อย่างแนบเนียนจริงๆ!!...นายแน่(+บ้า)มาก...คิดได้ยังไง!... :)

ตัวอย่างงานศิลปะประเภท Installation


Adam Brandejs ผลิต Genpets ด้วยสองมือ ผสมผสานตั้งแต่พลาสติก ยาง โฟม กระดาษ ไมโครชิป มอเตอร์ แผงวงจร ไฟฟ้า ระบบหุ่นยนต์ และคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ เป็นต้น วิธีการเริ่มจากแบบร่างจากสมองสู่การทำแม่พิมพ์ดินเหนียวไปจนถึงการหล่อ และผลิตจำนวนจำกัดเพียง 19 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งจำหน่ายเหมือนงานศิลปะชิ้นอื่นๆ ในราคา 1,070 เหรียญสหรัฐสำหรับรุ่นที่เคลื่อนไหวได้ และ 715 เหรียญสำหรับรุ่นที่ไม่เคลื่อนไหว โดยไม่มีการผลิตจำนวนมากเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าอย่างที่หลายคนเข้าใจ

"Genpets รุ่น 01" เป็นงานประเภทสื่อผสม ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาหุ่นสัตว์เลี้ยงหน้าตาประหลาด บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกเข้ารูป มีแถบบอกความสดใหม่ กราฟแสดงการทำงานของหัวใจ ไมโครชิปฝังอยู่ในตัว ระบบสายยางให้อาหาร และหน้าจอ LCD ในรุ่น Getpets LCD สัตว์เลี้ยงชีววิศวกรรมนี้ มีให้เลือกถึง 7 อุปนิสัย ตามสีต่างๆ สามารถส่งเสียงได้ มีอายุขัยประมาณ 1 หรือ 3 ปี ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความสด

"Genpets" เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า หากวันหนึ่งในท้องตลาดเกิดมีสินค้าประเภทสิ่งมีชีวิตบรรจุอยู่ในหีบห่อ สามารถซื้อขายได้ สามารถใช้แล้วทิ้งได้ คุณจะคิดอย่างไรและอยากเป็นเจ้าของสินค้านั่นไหม เป็นโจทย์ที่ Adam Brandejs ตั้งขึ้น "ผมไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยีชีววิศวกรรม แต่ผมเพียงแค่ลังเลใจ เกี่ยวกับใครจะเป็นผู้ใช้เทคโลโลยีนี้ และใช้ที่ไหนและใช้อย่างไร" เขาแสดงความเห็นส่วนตัวอันเป็นที่มาของงานชิ้นนี้ที่เขาต้องการทดสอบแนวโน้มของผู้คลั่งสัตว์เลี้ยงกับเทคโนโลยีนี้ที่นับวันจะเป็นจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเขายังยกตัวอย่าง ปลาเรืองแสงของบริษัท Glofish ในสิงคโปร์ที่ผลิตของมาเอาใจคนชอบเลี้ยงปลา และแมวสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จากบริษัท Allerca ในแอลเอ แคลิฟอร์เนีย โดยบริษัทเหล่านี้ทำการจำหน่ายจริง ไม่ใช่แค่งานศิลปะแบบเขาเท่านั้น...หลังจากที่เขาแสดงงานในแนวใหม่นี้ เขาได้รับการตอบรับที่เหนือความคาดหมายมากมาย อาทิ

1. ตัวประติมากรรม Genpets ในบรรจุภัณฑ์ดังรูปที่เห็น ได้แสดงในห้องแสดงศิลปะ และร้านค้า (ร้าน Iodine & Arsenic) ณ เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ในปี2550 และเขาก็ได้รับเชิญไปแสดงที่เมือง Alberta ที่อยู่ทางตะวันตกของแคนาดา และข้ามทวีปไปแสดงที่ V-Gallery ใน Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่เขาติดตั้ง Genpets ที่ร้าน Iodine ในโตรอนโต เจ้าของร้านต้องหอบหมอนมานอนเฝ้าร้าน เนื่องจากมีคนมาทุบหน้าต่างร้านอย่างโกรธแค้น เพราะคิดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตจริงๆ และถูกนำมาใส่บรรจุภัณฑ์แบบของเล่น บางคนประท้วงว่า การนำผลผลิตจากการทดลองทางชีวพันธุกรรมมาบรรจุกล่องพลาสติกจำหน่ายเป็นเรื่องผิดจริยธรรม บางคนก็อยากปลุกให้เจ้าตัวน้อยนี้ตื่นและซื้อกลับบ้าน ผู้ปกครองของวัยรุ่นหลายคนที่อยากเป็นเจ้าของ Genpets ถึงกับเกิดอาการสับสนและตะลึงงัน ซึ่ง Adam ก็ได้ตั้งคำถามอีกว่า "สัตว์เลี้ยงในกล่องพลาสติกแบบนี้แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงในตู้กระจกหรือกรงตามร้านขายสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หรือไม่อย่างไร"

2. เว็บไซต์ Genpets.com ถูกออกแบบมาให้เหมือนกับเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาดของบริษัทใหญ่ๆทั่วไป โดยทั่วไปแล้วการเข้าถึงผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งๆเป็นเรื่องจำกัด เขาจึงสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อให้เรื่องราวของ Genpets เข้าถึงคนหมู่มาก ทำให้การถกเถียงหรือการคิดถึงประเด็นเรื่องชีวิตและวิทยาศาสตร์กระจายออกกว้างยิ่งขึ้น ซึ่งจะพบว่าเขาประสบความสำเร็จมากในการนำเสนอรูปแบบนี้ อย่างไรก็ดี Adam มีความเห็นว่า การเห็นผลงานจริงดีกว่าเห็นจากรูปภาพหรือเว็บไซต์ เนื่องจากของจริงมีการเคลื่อนไหว มีแสงและเสียงปรากฏ ยิ่งให้ความรู้สึกจริงมากขึ้น

3. แค็ตตาล็อกงาน Genpets (มีให้ดาวน์โหลดในเว็บด้วย) เป็นงานวิทยานิพนธ์ของ Adam แทนที่เขาจะเขียนเป็นรายงานวิทยานิพนธ์แห้งๆ น่าเบื่อทั่วไปๆ เขาสร้างแค็ตตาล็อกจำนวน 20 หน้า เป็นการเพิ่มสร้างสรรค์แบบศิลปินตัวจริง ผลที่ได้คือ เขาจบการศึกษาพร้อมด้วยเกียรตินิยมเหรียญทอง

4. การใช้กลยุทธ์ "ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง" (Viral Marketing) อันเป็นการตลาดแนวใหม่ในยุคไซเบอร์ เป็นการส่งข้อความหรืออีเมลต่อกันไปในระยะเวลาอันสั้นและจำนวนมาก ผ่านอีเมลลูกโซ่ หรือ Forward Mail ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้ผลดีมาก บทความนี้ถือเป็นผลพวงของไวรัล มาร์เก็ตติ้งที่ได้รับจากอีเมลลูกโซ่ และผู้เขียนนำมาเขียนขยายความอีกทอดหนึ่ง ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลามเหนือความคาดหมาย

โฉมหน้า "Adam Brandejs"


"Adam Brandejs" เกิดที่เมือง Ottawa ประเทศแคนาดา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาสื่อผสม คณะวิจิตรศิลป์ จาก Ontario College of Art & Design เขาไม่ได้เป็นแค่ศิลปิน แต่เขายังเป็นนักเขียนโปรแกรมอีกด้วย งานของเขามีตั้งแต่งานหุ่นจำลองเหมือนจริง งานสร้างเว็บไซต์ และงานประดิษฐ์หุ่นยนต์ งานชิ้นล่าสุดที่สร้างความภาคภูมิใจให้เขาไม่น้อยคือ งานสร้างหุ่นอสูรกายในภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง "The Host" ซึ่งเป็นเรื่องที่ซ่อนประเด็นประเทศมหาอำนาจกับสิ่งแวดล้อมของโลกไว้ให้ผู้ชมได้เก็บไปคิดเป็นการบ้าน เช่นเดียวกับผลงาน "Genpets" ชมผลงานอื่นๆของเขาได้ที่ http://www.brandejs.ca/

“THE HOST” ภาพยนตร์ทุนสร้างสูงแนวแอคชั่น-ระทึกขวัญ ของผู้กำกับบอง จุน-โฮ คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวทีเอ็มบีซี ครั้งที่ 5 ที่กรุงโซล
ภาพยนตร์เรื่อง “THE HOST” ที่มีชื่อในภาษาเกาหลีว่า เกวมุล (Gwoemul) ซึ่งแปลว่า อสุรกาย ขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเกาหลีใต้ เรื่องราวของครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำฮัน อย่างสงบ แต่มาวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อมีตัวประหลาดมากัดกินคนรอบตลิ่งริมแม่น้ำที่กลายสภาพเป็นนรกภายในพริบตา พร้อมกับจับตัวเด็กสาวหายไปในแม่น้ำ ซึ่งที่จริงแล้วอสุรกายตัวนั้นคือ ร่างที่เกิดจากเชื้อโรคกลายพันธุ์ซึ่งมาจากการที่กองทหารอเมริกันทิ้งสารพิษลงแม่น้ำฮัน ที่เป็นแม่น้ำสายสำคัญของกรุงโซล เทคนิคพิเศษของหนังเรื่องนี้เรียกผู้ชมได้กว่า 12 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั่วประเทศ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่สหรัฐยังประจำการทหารอยู่ในเกาหลีใต้มาตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลีเมื่อ 53 ปีก่อน

ตัวอย่างฉากตอน สัตว์ประหลาดอาละวาด ใน The Host

4 ความคิดเห็น:

  1. บังเอิญลิงค์มาเจอ
    เจ๋งมาก!
    อ่านไปครึ่งแรกนึกว่าจริง
    :P

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ16 กันยายน 2552 เวลา 07:47

    ขอบคุณค่า ดีนะที่เป็นเรื่องหลอก น่ากลัวมาก

    ตอบลบ
  3. ขออนุญาติเอาไปแต่เรื่อง
    เพื่อความบันเทิงในชมรม
    ต่ออีกนิดหน่อยนะครับ

    ตอบลบ