" สัตยา ไสบาบา (Satya sai baba) "
สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักรายงานพร้อมๆกัน...เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2011 ว่า... สัตยา ไสบาบา ศาสดาทางจิตวิญญาณชื่อก้องโลก ได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรคทางระบบหัวใจเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลวิทยาศาสตร์การแพทย์ระดับสูง ในเมืองพุทธปาติ ในแคว้นอันตรประเทศ ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยอายุ 85 ปี
ข้อมูลต่อไปนี้เป็นเพียงนำเสนอข้อมูลที่ได้คัดมาจากหลายแหล่งในอินเทอร์เน็ต...โดยไม่ได้ปรับแต่งตัดต่อเนื้อหาใดๆ
"โปรดใช้วิจารณญาณ" ของท่านเอง!
......................................................................
Satya Sai BaBa นักมายากล หรือ บุคคลผู้บรรลุ
(ข้อมูลจาก...http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=2047.0)
Satya Sai BaBa นักมายากล หรือ บุคคลผู้บรรลุ
(ข้อมูลจาก...http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=2047.0)
สัตยา ไส บาบา เป็นคุรุหรือ ' กูรู ' อีกคนหนึ่งที่คนไทยหลายกลุ่มรู้จักกันดี ภาพประทับใจที่คนนึกถึงไส บาบามักเกี่ยวข้องกับอิทธิฤทธิ์อภินิหาร หรือปาฏิหาริย์ประเภทคว้าให้กลายเป็นทองคำ หรือไม่ก็เสกให้มีขี้ธูปออกมาจากแจกันเปล่าได้ แต่ละครั้งที่ไสบาบาปรากฏตัวจะมีคนมากมายรายล้อมรอชมปาฏิหาริย์ จนทางการอินเดียต้องสั่งให้ไส บาบาหยุด
ไสบาบา กล่าวว่าตนเป็นองค์อวตารของไส บาบา แห่งเมืองชรีดี ( Shridi )ซึ่งถือเป็นคุรุที่ชาวอินเดียให้ความนับถืออย่างมากรถยนต์แทบทุกคันจะติดภาพของไสบาบาไว้ที่หน้ากระจกรถเพื่อเป็นสิริมงคลต่อรถและชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไส บาบาสอนก็เน้นย้ำ การไม่แบ่งแยกศาสนา พูดถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน และความรักที่ไม่มีขีดจำกัด
"การมาของท่านนั้นไม่ได้มาเพื่อจะรบกวน หรือทำลายความศรัทธาใด ๆแต่มาเพื่อยืนยันความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละท่านซึ่งคริสเตียนก็จะเป็นคริสเตียนที่ดี และมุสลิมก็จะเป็นมุสลิมที่ดีและฮินดูก็จะเป็นฮินดูที่ดี " สานุศิษย์ของไส บาบา ยืนยัน
ที่ Prasanthi Nilayam แห่งเมืองพุทธปาตี แห่งรัฐอันธรประเทศทางใต้ของประเทศอินเดีย ยังเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจากทั่วสารทิศ และทั่วโลกโดยเฉพาะช่วงวันเกิดของไส บาบาในเดือนพฤศจิกายนเราจะเห็นผู้คนแห่แหนเข้าไปที่อาศรม คนเหล่านั้นต่างขับร้องเพลงเพื่อบูชาและสรรเสริญไส บาบา
แต่พ้นไปจากอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แล้ว ว่ากันว่าคำสอน แนวปฏิบัติ รวมถึงสิ่งที่ไส บาบาทำให้กับสังคมล้วนเกาะเกี่ยวกับเรื่องราวแห่ง สติปัญญา ไม่ว่าจะเป็นธรรมะที่เผยแผ่ โรงเรียนที่สร้างรูปแบบการศึกษาผสานกับสมาธิ คุณธรรมที่เน้นย้ำ โรงพยาบาลบ้านพักของคนไร้ที่อยู่
ไม่เพียงที่อินเดียเท่านั้น องค์กรสัตยาไส และโรงเรียนสัตยาไส ยังเผยแผ่ไปทั่วโลก แม้กระทั่งในเมืองไทยโรงเรียนสัตยาไสของ ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ก็เป็นส่วนหนึ่งดำเนินตามแนวคิดนี้
มีคนเคยถามต่อหน้าว่า แท้จริงแล้วสัตยา ไส บาบาเป็นใคร ท่านตอบว่า "ฉันคือพระเจ้า และคุณคือพระเจ้า แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ต่างกันระหว่างคุณกับฉัน นั่นคือ ขณะที่ฉันตระหนักรู้กับมันแต่คุณกลับไม่ตระหนักรู้อะไรเลย "
คำสอนของสัตยา ไส บาบา เน้นถึงหนทางที่นำไปสู่ความหมายของชีวิต 5 ข้อ อันได้แก่ สัจจะ การมีธรรมะ มีสันติ มีความรัก และยึดหลักอหิงสา ขณะเดียวกันก็ให้รักพระเจ้า เกรงกลัวต่อบาป และรับผิดชอบต่อสังคม
......................................................................
ประวัติ สัตยะ ไส บาบา
(จากลิงค์ที่เป็นไฟลฺ์.doc โดยตรงจากลิงค์ กูเกิล (แต่ไม่พบหน้าเว็บ)
(จากลิงค์ที่เป็นไฟลฺ์.doc โดยตรงจากลิงค์ กูเกิล (แต่ไม่พบหน้าเว็บ)
สัตยะ ไส บาบา เกิดเมื่อ พ.ศ.2469 ที่หมู่บ้านปุตตปารถิ หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในรัฐอันธรประเทศ ประเทศอินเดีย ในตระกูลราชู ในตอนเด็ก พ่อตั้งชื่อให้ว่า สัตยะ นารายณ์ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2483 สัตยะนารายณ์ได้พบกับความเจ็บป่วยไข้ รักษาหลายหมอแล้วก็ยังไม่หาย ในช่วงเวลานั้น เด็กชายสัตยะนารายณ์ได้ลุกขึ้นประกาศว่า “ฉันคือ ไส บาบา ภารกิจของฉันที่มายังโลกนี้ ก็เพื่อจะนำปวงมนุษย์ให้ดำเนินไปตามครรลองธรรม กลับมาสู่เบื้องบาทของฉัน ฉันมาเพื่อสถาปนาธรรมและวิถีชีวิตตามแบบพระเวท เพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณให้อยู่เหนือวัตถุ เพื่อนำมวลมนุษย์ให้กลับไปสู่โลกแห่งจิตวิญญาณ”
การประกาศตัวเองในทำนองเป็นศาสดาของเด็กชายสัตยะนารายณ์ในครั้งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเป็นศาสดา และคำว่า ไส บาบา ที่เด็กชายสัตยะนารายณ์อ้างถึงนั้น หมายถึงนักบุญในอดีตท่านหนึ่งที่เป็นที่ชาวอินเดีย ทั้งฮินดูและมุสลิมต่างพากันเคารพนับถือ ที่เมืองเชอร์ดี้ อยู่ในรัฐมหาราฏร์ ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ดังนั้นการอ้างถึงเรื่องนี้จึงเป็นการเชื่อมโยงกันว่า เด็กชายสัตยะนารายณ์คือ ท่านเชอร์ดี้ ไส บาบา ได้กลับชาติมาเกิด ในเวลาต่อมา ท่านสัตยะไสบาบา ก็ยืนยันอย่างนั้น หลังจากการประกาศตัวเป็นศาสดาของท่านในครั้งนั้นแล้ว สัตยะ ไส บาบา ก้อได้ออกจากบ้าน และใช้ชีวิตประกาศสั่งสอนธรรม และเริ่มมีผู้เลื่อมใสเพิ่มขยายตัวมากขึ้นโดยลำดับ จนสามารถสร้างสำนักขึ้นได้ เรียกว่า ประสันตินิลยัม หรือที่อยู่ของผู้สงบ
......................................................................
"โปรดใช้วิจารณญาณ" ของท่านเอง!
ข้างล่างนี้เป็นคลิปที่เขาทำขึ้นมาเพื่อสอนให้ชาวบ้านในอินเดียรู้ว่าปฏิหาริย์ต่างๆ สามารถใช้มายากลและวิทยาศาสตร์ทำได้
......................................................................
สวัสดีค่ะ มีปาฏิหาร์ยของท่านมาเล่าให้ฟังค่ะ นี้ถือเป็นความเชื่อส่วนตัวน่ะค่ะ ไม่ว่ากันค่ะ เพื่อน ๆ รู้จักด้อกเตอร์อาจองค์ ชุมศรี ณ อยุธยา ไหมค่ะ ? (ถ้าพิมพ์ชื่อผิดขออภัยมาน่ะที่นี้ด้วยค่ะ) เดิมทีด้อกเตอร์ก็ไม่เชื่อเรื่องของไสบาบาหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่อยากรู้ จึงไปหาท่านบาบา เมื่อไปถึง บาบาได้หยิบหินก้อนหนึ่งออกมาจากกระถางดอกไม้ พอวางบนมือของด้อกเตอร์ ปรากฏว่า หินนั้นกลายเป็น ลูกอม ด้อกเตอร์ถึงกับอึ้ง และไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ ดังนั้น ด้อกเตอร์อาจองค์ จึงนับถือท่านไสบาบาเป็นต้นมา และได้ก่อตั้งโรงเรียนสัตยาไสบาบาไว้ที่จังหวัดลพบุรี ชื่อว่าโรงเรียน ลำนารายณ์ ว่าง ๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ค่ะ
นี้คือโครงการของท่านไสบาบาในชาตินี้น่ะค่ะ ท่านไสบาบาได้สร้างมหาวิทยาลัยฟรี คนที่ศึกษานั้นไม่จำเป็นต้องเสียค่าเล่าเรียน และคุณครูก็ได้รับเงินเดือนเพียงน้อยนิดเท่านั้น น้อยกว่าคนเก็บขยะในเมืองเสียอีก แต่จิตใจของพวกเขาช่างสูงส่ง เพราะพวกเขาไม่ต้องการเงินเลย ดังนั้น ท่านไสบาบาจึงได้รับครอบครัวของพวกเขาเข้ามาอยู่ในอาศรม และให้อาหารกิน พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงยิ่ง ท่านไสบาบากล่าวว่า นักเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้น ชีวิตประจำวันของเขาไม่ต่างจากพระเลย อนาคตของพวกเขาคือจะเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก
และโครงการของท่านไสบาบานั้นมีอีกอย่างคือ โรงพยาบาลฟรี พูดง่าย ๆ คือ จากการรักษาที่มีค่ารักษาถึงหลักล้าน แต่ ที่นี้ รักษาฟรี ส่วนใหญ่ท่านจะเน้นคนจนน่ะค่ะ แล้วคนที่มีฐานะในเมืองจีน ก็ยินดีที่จะบริจาคเพื่อช่วยเหลือโครงการนี้ ที่สำคัญ หมอ ผู้มีจิตใจสูงส่ง พวกเขาไม่รับเงินเลยแม้แต่หนึ่งรูปี ในขณะที่พวกเขากิน และอยู่อย่างเรียบง่าย และอนาคตของอาชีพหลาย ๆ อาชีพ ก็มาจากเด็ก ๆ ที่บาบาได้รับ และเลี้ยงดูนั่นเอง หมอในอนาคตคือนักเรียนมหาวิทยาลัย คิดดูซิ เมื่อนั้นโลกจะงดงามแค่ไหนค่ะ ว่าไหม ? และแน่นอนว่าโครงการของท่านมีเยอะกว่านี้ แต่ขอยกตัวอย่างแค่นี้ละกันค่ะ
ส่วนคลิปน่ะค่ะ กรุณาใช้สายตามองดีดี ตอนที่ดูน่ะค่ะ ไม่งั้น เขาก็คงเปิดเผยกันทางทีวี หรืออะไรที่มากกว่าจะเปิดที่เว็ปที่เข้ายาก ๆ ลองเปิดให้คนทั้งโลกได้ดูซิค่ะ แล้วนักมายากลที่เก่ง ๆ ทั้งหลายก็จะดูออกเองแหละค่ะ อีกอย่าง เป็นท่านจริงหรือเปล่า ? กรุณาลองดูแล้ววิเคราะห์ให้ดี ๆ น่ะค่ะ
:: ความคิดเห็นอีกท่าน (จากบอร์ด Pantip.com...)
นี้คือโครงการของท่านไสบาบาในชาตินี้น่ะค่ะ ท่านไสบาบาได้สร้างมหาวิทยาลัยฟรี คนที่ศึกษานั้นไม่จำเป็นต้องเสียค่าเล่าเรียน และคุณครูก็ได้รับเงินเดือนเพียงน้อยนิดเท่านั้น น้อยกว่าคนเก็บขยะในเมืองเสียอีก แต่จิตใจของพวกเขาช่างสูงส่ง เพราะพวกเขาไม่ต้องการเงินเลย ดังนั้น ท่านไสบาบาจึงได้รับครอบครัวของพวกเขาเข้ามาอยู่ในอาศรม และให้อาหารกิน พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงยิ่ง ท่านไสบาบากล่าวว่า นักเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้น ชีวิตประจำวันของเขาไม่ต่างจากพระเลย อนาคตของพวกเขาคือจะเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก
และโครงการของท่านไสบาบานั้นมีอีกอย่างคือ โรงพยาบาลฟรี พูดง่าย ๆ คือ จากการรักษาที่มีค่ารักษาถึงหลักล้าน แต่ ที่นี้ รักษาฟรี ส่วนใหญ่ท่านจะเน้นคนจนน่ะค่ะ แล้วคนที่มีฐานะในเมืองจีน ก็ยินดีที่จะบริจาคเพื่อช่วยเหลือโครงการนี้ ที่สำคัญ หมอ ผู้มีจิตใจสูงส่ง พวกเขาไม่รับเงินเลยแม้แต่หนึ่งรูปี ในขณะที่พวกเขากิน และอยู่อย่างเรียบง่าย และอนาคตของอาชีพหลาย ๆ อาชีพ ก็มาจากเด็ก ๆ ที่บาบาได้รับ และเลี้ยงดูนั่นเอง หมอในอนาคตคือนักเรียนมหาวิทยาลัย คิดดูซิ เมื่อนั้นโลกจะงดงามแค่ไหนค่ะ ว่าไหม ? และแน่นอนว่าโครงการของท่านมีเยอะกว่านี้ แต่ขอยกตัวอย่างแค่นี้ละกันค่ะ
ส่วนคลิปน่ะค่ะ กรุณาใช้สายตามองดีดี ตอนที่ดูน่ะค่ะ ไม่งั้น เขาก็คงเปิดเผยกันทางทีวี หรืออะไรที่มากกว่าจะเปิดที่เว็ปที่เข้ายาก ๆ ลองเปิดให้คนทั้งโลกได้ดูซิค่ะ แล้วนักมายากลที่เก่ง ๆ ทั้งหลายก็จะดูออกเองแหละค่ะ อีกอย่าง เป็นท่านจริงหรือเปล่า ? กรุณาลองดูแล้ววิเคราะห์ให้ดี ๆ น่ะค่ะ
......................................................................
:: ความคิดเห็นอีกท่าน (จากบอร์ด Pantip.com...)
ความคิดเห็นที่ 6
เสริมให้นิดนึง ตอนหลังมีผู้พบไสบาบาในอเมริกา อยู่คฤหาสน์หลังเบ้อเริ่ม นั่งรถโรสรอยซ์ เรื่องที่ว่าอาจเป็นศาสดาองค์ใหม่เลยจบไป
ส่วนเรื่องเสกของนั่น มีคนทำได้จริงครับแต่เป็นในลักษณะการเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ไม่ใช่เสกขึ้นมาจากความว่างเปล่าบาดหลวงองค์หนึ่งแถวบ้านผมก็ทำได้ คือในงานประจำปีของโบสถ์ ก็มีบาดหลวงมาร่วมพิธีกันหลายองค์มีเลี้ยงมื้อกลางวัน บาดหลวงก็กินข้าวด้วยกัน องค์หนึ่งนึกสนุกก็เสกนาฬิกาจากข้อมือของเพื่อนบาดหลวงมาอยู่ในข้อมือของตัวเอง จบลงด้วยสังฆราชเรียกไปดุ ว่าทีหลังอย่าเล่นอย่างนี้อีก อิอิ
อีกแบบหนึ่งคือการเปลี่ยนสภาพ เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว สัก 30 ปีแล้วเห็นจะได้บาดหลวงองค์หนึ่งเดินไปเจอเด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ท่านหยิบใบไม้ที่ตกอยู่แถวนั้น ใบไม้นั้นกลายเป็นธนบัตร ท่านส่งให้เด็กเอาไปซื้อขนมกิน ตกเย็นท่านตามไปที่ร้านขายขนมนั้น บอกให้เจ้าของร้านเปิดลิ้นชักเงินดู เจอใบไม้ใบหนึ่ง ท่านบอกว่าตอนที่เจอเด็กๆ นั้นไม่มีเงินติดตัว แล้วท่านก็ส่งเงินค่าขนมให้เจ้าของร้านไป คราวนี้เป็นเงินจริงๆ โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเป็นเรื่องของพลังจิตครับ
เสริมให้นิดนึง ตอนหลังมีผู้พบไสบาบาในอเมริกา อยู่คฤหาสน์หลังเบ้อเริ่ม นั่งรถโรสรอยซ์ เรื่องที่ว่าอาจเป็นศาสดาองค์ใหม่เลยจบไป
ส่วนเรื่องเสกของนั่น มีคนทำได้จริงครับแต่เป็นในลักษณะการเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ไม่ใช่เสกขึ้นมาจากความว่างเปล่าบาดหลวงองค์หนึ่งแถวบ้านผมก็ทำได้ คือในงานประจำปีของโบสถ์ ก็มีบาดหลวงมาร่วมพิธีกันหลายองค์มีเลี้ยงมื้อกลางวัน บาดหลวงก็กินข้าวด้วยกัน องค์หนึ่งนึกสนุกก็เสกนาฬิกาจากข้อมือของเพื่อนบาดหลวงมาอยู่ในข้อมือของตัวเอง จบลงด้วยสังฆราชเรียกไปดุ ว่าทีหลังอย่าเล่นอย่างนี้อีก อิอิ
อีกแบบหนึ่งคือการเปลี่ยนสภาพ เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว สัก 30 ปีแล้วเห็นจะได้บาดหลวงองค์หนึ่งเดินไปเจอเด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ท่านหยิบใบไม้ที่ตกอยู่แถวนั้น ใบไม้นั้นกลายเป็นธนบัตร ท่านส่งให้เด็กเอาไปซื้อขนมกิน ตกเย็นท่านตามไปที่ร้านขายขนมนั้น บอกให้เจ้าของร้านเปิดลิ้นชักเงินดู เจอใบไม้ใบหนึ่ง ท่านบอกว่าตอนที่เจอเด็กๆ นั้นไม่มีเงินติดตัว แล้วท่านก็ส่งเงินค่าขนมให้เจ้าของร้านไป คราวนี้เป็นเงินจริงๆ โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเป็นเรื่องของพลังจิตครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น