หนังได้ใช้กรณีมนุษย์ต่างดาวเป็น Symbolic เสียดสีสะท้อนสังคมแบบอ้อมๆในเชิงประเด็นของการแบ่งพรรคแบ่งพวก การเหยียดสีผิว เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ฯลฯ โดยมนุษย์ต่างดาวเป็นภาพแทนของของชนกลุ่มน้อยที่โดนกฏหมายกีดกันต่างๆนานา อีกทั้งยังเป็นที่รังเกียจเดียจฉันท์
...และที่น่าสนใจอีกอย่างของหนังเรื่องนี้คือ วิธีการนำเสนออันแตกต่างไปจากหนังทั่วไป โดยนำเสนอคล้ายๆหนังสารคดี ก็นับเป็นมุขที่เจ๋งดีเหมือนกันนะ ส่วนตัวไม่ชอบหนังเรื่องนี้อยู่อย่างเดียวคือ รูปลักษณ์มนุษย์ต่างดาวสร้างออกมาเป็นสัตว์ประหลาดดูพิกลพิการเกินไปหน่อย น่าจะออกแบบให้ดูเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญากว่านี้อีกนิด...แต่ยังไงภาพโดยรวมก็ถือว่าค่อนข้าง OK ทีเดียว แม้จะเป็นหนังทุนต่ำ ก็สามารถสะกดให้ติดตามด้วยความสนใจไปจนจบเรื่อง
...ดูหนังเรื่อง District 9 แล้วทำให้นึกถึงหนัง "The boy in the striped pajamas" ซึ่งมีเนื้อหาทำนองกีดกันจำกัดสิทธิเช่นกัน แต่รุนแรงกว่าเพราะนอกจากกีดกัดแล้วยังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นั้นคือ เรื่องอันเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวยิวในเยอรมันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
หนังเรื่องนี้หักมุมได้เจ็บปวด ให้แง่คิดกับสังคมได้ถึงกึ๋น...ผู้นำทหารนาซีผู้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการฆ่าชาวยิวจำนวนามากที่ถูกจำกัดอยู่ในเขตหวงห้ามแห่งหนึ่ง โดยการบังคับต้อนให้เข้าไปในห้องพ่นแก็ซพิษวันละชุด ละชุด ซึ่ง ณ ที่นั่นชาวยิวทุกคนถูกจัดให้แต่งชุดลายทางคล้ายชุดนอนหรือที่เรียก Striped pajamas (มีจริงในประวัติศาสตร์)...แต่เดชะบุญบังเอิญลูกชายของตนแอบไปเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กชาวยิวที่อยู่ในเขตหวงห้ามนั้น และด้วยความไร้เดียงสาของทั้งคู่ วันหนึ่งด้วยความอยากรู้อยากเห็น ลูกชายแอบข้ามเข้าไปในเขตหวงห้ามของเพื่อนชาวยิวโดยการแต่งชุดลายทาง(ที่เพื่อนยิวจัดมาให้) และ ณ เวลานั้นก็เป็นเวลาที่มีการกวาดต้อนเข้าห้องพ่นก๊าซพิษพอดิบพอดี! กว่านายทหารผู้เป็นพ่อจะตามหาลูกเจอก็เป็นอันเรียบร้อยโรงเรียนนาซีไปแล้ว!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น