วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เมืองของเล่นแห่งนาซี!


- 2009 Academy Award WINNERS in Short Films -

ก่อนเข้าเรื่องขอเกริ่น...หากจะจัดอันดับ Top Five สุดยอดหนังแนวหักมุม ส่วนตัวแล้วก็ไม่ถึงขนาดเป็นผู้เชี่ยวชาญ-ติดตามดูหนังมากนัก แต่เท่าที่เคยดูผ่านมา ขอยกให้ 5 เรื่องนี้แล้วกันนะ... (ถ้ามีเรื่องแจ๋วๆก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับ :)

อันดับ 1. ยกให้เรื่อง "The Pretige" (2006) กำกับโดย Christopher Nolan การหักเหลี่ยมเชือนคมกันอย่างถึงพริงถึงขิงของเพื่อนรักนักมายากล เดาไม่ถูก ดูไปโดนหลอกไป มีลุ้นตลอดทั้งเรื่อง สมแล้วที่เป็นนักมายากล...
ที่ 2. "The sixth sense" (1999) กำกับโดย M. Night Shyamalan... เรื่องนี้หักมุมแนวหลอน ตอนจบถึงกับอึ้ง! กลายเป็นผีไปได้ยังไง :)...
ที่ 3. "Fight Club" (1999) ผู้กำกับ David Fincher... เนื้อหาโครงเรื่องแปลกประหลาดดี-โรคจิต!ทั้งเรื่อง แต่โคตรArt!...
ที่ 4. "Death note 1-2" (2006) ผู้กำกับ Kaneko Shūsuke... ซ่อนเงื่อนชิงไหวชิงพริบ ยมบาลสไตล์ญี่ปุ่นแนวจริงๆ...
ที่ 5. The Mist (2007) ผู้กำกับ Frank Darabont... มันอยู่ในหมอก หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เริ่มที่ความกลัวแต่อย่าลงท้ายด้วยความสิ้นหวัง...

เอาล่ะ เข้าเรื่องเลย... ล่าสุด เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้สดๆร้อนๆ...ถึงเป็นหนังสั้นหักมุมแต่ก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้หนังยาว 5 เรื่องที่ว่ามาเลย! นั้นคือเรื่อง...


"Spielzeugland" หรือ Toyland (เมืองของเล่นแห่งนาซี)

กำกับโดย Jochen Alexander Freydank ประเทศเยอรมัน ฉายครั้งแรงในเยอรมันตั้งแต่ปี 2007 แต่มาได้ รางวัลออสการ์ หนังสั้นยอดเยี่ยม ประจำปี 2009

หักมุม-ลงตัว-ให้แง่คิด-สั้นๆเหมือนจะธรรมดา แต่ เฉียบลึก!

เนื่อหา-บท-การถ่ายทำ-การตัดต่อ สื่อสารออกมาได้เยี่ยม-สมเหตุสมผล เสียดายไม่มีวิดิโอใน Youtube ถึงเล่ายังไงก็คงไม่ได้อารมณ์เท่าดูหนังด้วยตัวเอง หากสนใจลองเข้าไปหาโหลดใน Bit ที่ http://www.mininova.org/tor/2465841 หรือที่เว็บ Bit อื่นๆ น่าจะหาได้ไม่ยาก(มั๊ง)

Spielzeugland หนังสั้นประมาณ 13 นาที เป็นเรื่องราวในยุคนาซี เด็กชายชื่อ เฮนริช อยู่กับแม่แต่ไม่มีพ่อ(ไม่รู้พ่อไปไหน?) โดยมีเพื่อนบ้านที่สนิทสนมผัวเมียชาวยิวซึ่งมีลูกชายรุ่นราวคราวเดียวกันเฮนริชชื่อว่า เดวิด เฮนริชกับเดวิด สนิทสนมเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งคู่ชอบเล่นเปียโน

เฮนริชสังเกตเห็นแม่ของเดวิดดูหน้าหม่นหมองเศร้าสร้อย จึงไปถามแม่ตน แม่เฮนริชโกหกว่า ครอบครัวของเดวิด(ซึ่งเป็นยิว)ต้องเดินทางไปยังเมืองของเล่น(Spielzeugland) ซึ่งในความเป็นจริงก็คือพวกเขาถูกนาซีเกณฑ์ให้ไปขึ้นรถไฟมรณะ เนื่องจากพวกเขาเป็น ยิว! (ตามที่รู้กันในประวัติศาสตร์ ช่วงเหตุการณ์สังหารหมู่ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ในยุคนาซี) ด้วยความที่เฮนริชกับเดวิดผูกพันกันและอยากไปเที่ยวที่เมืองของเล่นด้วย เฮนริชจึงพยายามหนีตามไปด้วย

เฮนริชแอบไปคุยกับพ่อของเดวิด...

เฮนริช : อย่าบอกใครนะ ว่าผมจะไปเมืองของเล่นกันคุณด้วย ถึงแม้แม่ผมจะไม่อนุญาติก็ตาม

พ่อเดวิด : ---

คงมีแต่เฮนริชคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าสถานการณ์จริงๆคือยังไง...

เฮนริช : ทำไมนายไม่บอกว่าจะไปเที่ยว?

เดวิด : --- ..ลืม...

เฮนริช : เอาเถอะ เราจะไปเมืองของเล่นกับนายด้วย

เดวิด : ไปไม่ได้หรอก

เฮนริช : เราเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันนะ, เราสาบานกันแล้วว่าจะไปไหนไปกัน

เดวิด : ----

เฮนริชก็หนีตามครอบครัวเดวิดไป แต่แล้วก็ถูกทหารนาซีกันไว้ไม่ให้ไปเพราะเฮนริชไม่ได้เป็นยิว จุดที่น่าสนใจของเรื่องก็คือจุดที่แม่ของเฮนริชตามหาลูก ถ้าดูในหนังคนดูจะต้องเข้าใจว่าแม่พยายามตามหาลูกแท้ๆคือเฮนริช แต่ในตอนท้ายปรากฏว่ากลับได้เป็นเดวิดมาแทน นี่เป็นจุดหักมุมที่เป็นปมเสน่ห์เจือขบขันแบบลึกๆของเรื่องนี้!... หนังได้ทิ้งประเด็นคำถามให้ตีความและให้แง่คิด...นี่เป็นกุศโลบายอันชาญฉลาดของแม่เฮนริชในการช่วยชีวิตเดวิดหรือเปล่า? -หรือเป็นแค่ความบังเอิญ? -แล้วการเหยียดเชื้อชาติ การกีดกันในแง่เผ่าพันธุ์...ความเป็นยิวล่ะหมายความว่ายังไง? -อะไรที่สำคัญในการอยู่ร่วมกันของมนุษยชาติ?

โดยวันดีเดย์ที่มีการส่งยิวขึ้นรถไฟนั้น แม่เฮนริชบอกกับทหารนาซีว่า ลูกของตนหนีตามเพื่อนบ้านที่สนิทชาวยิวด้วยเข้าใจผิดว่าจะไปเที่ยว หาไปหามาก็ไปเจอเดวิดแออัดอยู่ในตู้รถไฟอยู่กับพ่อแม่และชาวยิว ถึงจุดนี้เธอก็ไม่ได้เรียกชื่อ เดวิด ว่า เดวิด แต่กลับเรียกว่า เฮนริช ทหารนาซีจึงปล่อยตัวออกมา แต่ก็ไม่ปล่อยง่ายๆแบบทันทีทันใด มีการตรวจเช็คหน้าตาก่อน และทหารตรวจแล้วก็พูดกับเดวิดว่า "อืมหล่อ หน้าตาเหมือนแม่เลย ทีหลังอย่าหนีแม่แบบนี้อีกนะ ชาติยังต้องการเธออยู่" ส่วนพ่อแม่ของเดวิดก็ได้แต่นิ่งเงียบยืนดูลูก และมองตาของแม่เฮนริช ด้วยความงง-เศร้า-กล้ว-ปนซาบซึ้ง

ในที่สุดถึงแม้เดวิดรอดมาได้และได้อยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเฮนริชต่อไป แต่ยังไงเรื่องก็ยังมีคงความเศร้าสลดอยู่...ที่พ่อแม่ของเดวิดต้องจากไปกับรถไฟสายมรณะ!

ตอนจบภาพตัดไปที่มือคนแก่คู่หนึ่งกำลังเล่นเปียโน ซึ่งก็เดาได้ว่าคือ เฮนริชกับเดวิดนั้นเอง ข้างๆมีรูปถ่ายครอบครัวของทั้งคู่ในวัยเด็ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น