...
CERN : ปฏิบัติการค้นหาความลับของจักรวาล
เคยดูหนังเรื่อง "ตรีมูรติ" (เคยฉายทางช่อง TPBS และมีขายเป็นชุดตามร้านดีวีดีทั่วไป) ซึ่งสร้างขึ้นจากคติความเชื่อของศาสนาฮินดู บรรยายไว้ว่า จักรวาลและโลกเกิดจาก "พระเจ้า" ส่วนพระเจ้านั้นกำเนิดออกมาจากสิ่งที่เรียกว่า " ปรมาตมัน หรือเรียกอีกอย่างว่า "พรหมมัน"??? " จากนั้นพระเจ้าแบ่งร่างตัวเองออกมาเป็น 3 ภาค เพื่อแบ่งหน้ากันทำ(หรือแบ่งกันเล่น?) นั้นคือ 1.พระพรหม มีหน้าที่สร้างจักรวาล ชีวิต และสรรพสิ่ง(จักรวาลทั้งหมดนะครับไม่ใช่แค่โลก) โดยสิ่งที่มีชีวิตที่พระพรหมสร้างมีส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่เรียกว่า "ชีวาตมัน" หรือจิต หรือวิญญาณ นั้นเอง, 2.พระวิษณุหรือพระนารายณ์ คอยดูแลปกป้องรักษาให้จักรวาลทั้งมวลดำเนินต่อไป, 3.พระศิวะหรือพระอิศวร ทำหน้าที่ทำลายหรือล้างบางเมื่อถึงคราวที่เห็นสมควร แต่ก่อนช่วงที่พระเจ้าจะแบ่งร่างเป็น 3 องค์นั้นได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า "มาร!(ซาตาน หรือ อสูร แล้วแต่จะเรียก)" ขึ้นมาก่อน...
ตรีมูรติ VCD ทั้งหมด 34 แผ่นจบ เล่าเรื่องราวละเอียดโดยเฉพาะการสร้างจักรวาล (ดูกันตาแฉะ)
มาร มีพลังและความฉลาดใกล้เคียงกับพระเจ้า ในหนังตรีมูรติตอนแรกๆหลังจากพระเจ้าสร้างมาร มารก็ได้สู้กับพระเจ้าและทำให้พระเจ้าบาดเจ็บเป็นแผลถึง 3 แผล! เหตุผลที่พระเจ้าสร้างมารขึ้นมา เกิดจากแนวคิดที่ว่า ถ้าไม่มีตัวขัดแย้งกับท่าน จักรวาลจะเงียบเกินไปไม่สนุก ไม่มีสีสัน ไม่พัฒนา เพราะเป้าหมายของพระเจ้าคือ ต้องการเห็นการพัฒนาของจักรวาลอย่างมีสีสัน! การเรียกว่า ตรีมูรติหรือพระเจ้า 3 องค์ ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว ควรเรียกว่า พระเจ้า 4 องค์ โดยรวม มาร เข้าไปด้วย เพราะถ้าพิจารณาดีๆ มารก็แบ่งภาคมาจากพระเจ้านั้นเอง เช่นเดียวกับ พระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ หาใช่คนอื่นคนไกลไม่ และมารได้ทำหน้าที่คอยขัดขวางขัดแย้งตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์...และในบทประพันธ์นวนิยาย-ภาพยนตร์ "เทวาและซาตาน" ของ "แดน บราวน์" กล่าวถึงองค์กร CERN ได้ค้นพบสสารชนิดหนึ่งเป็นขั้วตรงกันข้ามกับสสารที่เรียกว่า "ปฏิสสาร (Antimatter)" หรือในหนังเรียกว่า "เถ้าธุลีของพระเจ้า" หรือ "อนุภาคของพระเจ้า" ในทางทฤษฎีแล้ว ปฏิสสาร มีปริมาณพอๆกับสสารที่เกิดจากระเบิด "บิกแบง" (Big Bang) เมื่อ 1.37 หมื่นล้านปีมาแล้ว และที่น่าสนใจ คือ สสารกับปฏิสสารต่างทำลายล้างซึ่งกันและกัน แต่เหตุใดจึงมีสสารออกมาในรูปของดวงดาว ดาวเคราะห์และผู้คนอยู่เต็มไปหมดในเอกภพ นั่นคือหนึ่งในความลึกลับของจักรวาลวิทยา...แนวคิดระหว่างจักรวาลวิทยาศาสนาฮินดูกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ดูจะสอดคล้องใกล้เคียงกันอย่างน่าประหลาด
"เทวาและซาตาน" ฉบับนวนิยาย
ในเมื่อพระเจ้า 4 องค์นี้ กำเนิดออกมาจาก ปรมาตมัน! แสดงว่า ปรมาตมันนี้จะต้องมโหฬารมาก!ใหญ่กว่าพระเจ้า! แต่ในคติฮินดูเองก็ไม่ได้มีคำอธิบายไว้มากนักว่าปรมาตมันเป็นอย่างไร? เพียงแต่บอกว่าสั้นๆเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้ต้องสัมผัสเอง (คล้ายๆกับรสอาหาร เปรี้ยว หวาน เค็ม ฯลฯ ใครจะอธิบายได้ว่า เปรียวเป็นอย่างไร! ต้องสัมผัสเอง) เป็นสิ่งที่อยู่ได้ด้วยตัวเองไม่มีใครสร้างไม่ได้เกิดจากเหตุและผลใดๆ และก็ไม่ได้เป็นพระเจ้าสร้างโลก พระเจ้าแค่สิ่งเล็กๆที่หลุดออกมาจาก ปรมาตมัน อีกที!
ห่วงโช๋อาหาร ผู้ล่าและผู้ถูกล่า ก่อเกิดวิวัฒนาการ
ในทฤษฏีวิวัฒนาการสมัยใหม่กล่าวว่า...พัฒนาการต่างๆในธรรมชาติเกิดจาก การขัดแย้ง อาทิ ห่วงโซ่อาหาร นั้นคือ สิ่งมีชีวิตต้องมี ผู้ล่าและผู้ถูกล่า โดยผู้ล่าวิวัฒนาการเพื่อล่าให้ได้ดีที่สุดทั้งนี้เพื่อจะได้กินและดำรงอยู่รอดเพื่อจะได้สืบพันธุ์ต่อไป ส่วนผู้ถูกล่าก็วิวัฒนาการเพื่อหนีจากการถูกไล่ล่าให้ได้ดีมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อจะกิน-อยู่รอดและได้สืบพันธุ์ต่อไปเช่นกัน ถ้าไม่มีการขัดแย้งทำนองนี้ก็จะไม่มีวิวัฒนาการและพัฒนาการใดๆเกิดขึ้น สิ่งมีชีวิตก็จะหยุดนิ่ง! ซึ่งหลักการนี้ตรงกับแนวคิดแบบ "เต๋า" ของจีนที่ว่า ก่อนจะกำเนิดสรรพสิ่งมี เต๋า ดำรงอยู่ก่อนสิ่งทั้งปวง จากนั้นก็กำเนิดสิ่ง 2 สิ่งคือ หยินและหยาง ซึ่งขัดแย้งเป็นขั้วตรงกันข้างกัน และจากการขัดแย้งของหยินหยางก่อให้เกิดสรรพสิ่งเอนกอนันต์ไม่รู้จบและที่น่าสนใจอีกอย่างหากโยงกลับไปที่เรื่อง "เทวาและซาตาน" ในเรื่องนี้จะกล่าวถึงพวก "อิลูมินาติ"(พวกต่อต้านคริสตจักรโดยเฉพาะเรื่องแนวคิดกำเนิดจักรวาล-กำเนิดชีวิต) ตัวหนังสือสัญลักษณ์แบบอิลูมินาเมื่อหมุนกลับหัวแล้วจะได้เป็นภาพเดิม ซึ่งเป็นลักษณะเช่นเดียวกับ สัญลักษณ์ หยิน หยาง ของ เต๋า (อิลูมินาติ ตรีมูรติ มาแนว ติ ติ คล้ายๆกันนะ)
!! จักรวาล ชีวิตและสรรพสิ่งทั้งปวง เป็นเพียงแค่เกมส์??? !!
พระพุทธเจ้าเผชิญหน้าพญามาร Version ภาพยนตร์ "The Little Buddha"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น