วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

Metropolis - หนังไซไฟ ตอนที่ 2


* Metropolis - หนังไซไฟ ตอนที่ 1  คลิกที่นี่

Metropolis เป็นเรื่องของมหานครตึกระฟ้าในโลกอนาคตที่เจริญรุ่งเรืองทางด้านเทคโนโลยี มีทั้งถนนทางด่วนพาดผ่านกลางตัวเมืองหลายชั้น มีรางรถไฟฟ้า และเครื่องบินที่สามารถจอดลงบนหลังคาตึกอาคารสูงๆได้ แต่ก็มีการแบ่งชนชั้นกันของสองกลุ่มระหว่างกลุ่มชนชั้นส่วนใหญ่ที่เป็นทาสทำงานอยู่กับเครื่องจักรกลใต้ดิน กับพวกชนชั้นที่สูงกว่าผู้คอยเสวยสุขกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยมีผู้นำจอมเผด็จการชื่อ  "John Fredersen" ที่กำลังหาทางกำจัดกลุ่มทาสที่รวมตัวกันต่อต้าน และมี  "Maria"  แม่พระคนสวยของเหล่าทาสเป็นผู้นำ

- Metropolis 1926 : สร้างหุ่น "Maria" -

แต่แล้วเรื่องถึงจุดหักเหเมื่อ "Freder" ลูกชายของ John Fredersen  กลับพบรักกับ Maria แล้วไปพบความไม่ยุติธรรมกับคนงานใต้ดินจึงขอร้องให้พ่อจอมเผด็จการของเขาช่วยแก้ไขกรณีนี้ให้...ซึ่งกลับทำให้ John Fredersen  เร่งร่วมมือกับ นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง "Rotwang" สร้างหุ่นยนต์สาวให้เหมือน Maria  แล้วปลอมตัวไปยุยงคนงานใต้ดินให้ก่อความรุนแรงวุ่นวายขึ้น เพื่อเป็นข้ออ้างในการกำจัดชนชั้นแรงงานทาสให้สิ้นซากต่อไป แต่ท้ายสุดหนังจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกัน พร้อมฝากข้อคิดว่า “หัวใจ คือ ตัวกลางระหว่างสมองและแรงงาน”  และภาพยนตร์ยังแฝงถึงความหวาดหวั่นต่อการมาของหุ่นยนต์ หรือผลของเทคโนโลยีต่อชีวิตมนุษย์ด้วย

แม้เนื้อเรื่องจะออกดูคล้ายนวนิยายเก่าๆของค่ายหนังดังหลายค่ายนิยมสร้างออกมาให้ดูกัน ประมาณเรื่องของชายผู้สูงศักดิ์หลงรักหญิงผู้ยากไร้ มีอุปสรรคมาขวางกั้น แต่ก็กลับจบแบบสุดแฮปปี้ แต่สิ่งที่ทำให้ Metropolis ถูกเล่าขานไม่รู้จบ คือ ฉากของเมืองในอนาคต ที่อยู่ในอุดมคติอัดสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของอนาคต

ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ผู้แสดงประกอบถึง 36,000 คน ความโดดเด่นในฉากเมืองนี้ทำให้เกิดการจัดแสงแบบ Dark city (คือเมืองโทนมืดแฝงไปด้วยภัยพิบัติ) ทำนอง ฉากเมืองแห่งอนาคตในภาพยนตร์ Blade Runner (1982) และ จุดเด่นของการปรากฎตัวของหุ่นยนต์สาว ซึ่งในสมัยนั้นถือเป็นเรื่องใหม่มาก การเคลื่อนไหวที่คล้ายผู้คนทำให้เป็นต้นแบบให้กับหนังหุ่นยนต์ในยุคหลัง  เช่น หุ่นยนต์ C3-PO, ใน Star wars (1977) และล่าสุดก็มี หุ่นยนต์สาว T-X ใน Terminator 3 : Rise of the machines นับได้ว่าการสร้างหุ่นยนต์  และฉากบ้านเมืองในอนาคตของ Metropolis นี้  ได้กลายเป็นตำนานเป็นแบบอย่างที่สำคัญหนังไซไฟยุคต่อๆมาเลยทีเดียว

คำ Metropolis แปลว่า มหานคร หนังออกฉายในปี 1926 เป็นช่วงหลังการแพ้สงครามโลกของเยอรมัน  พร้อมเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐ บรรดาศิลปินจึงแสดงผลงานในรูปต่างๆ ซึ่งมีผลต่อหนังอันถือเป็นจุดยืนในการแสดงออกทางการเมือง โดยได้ตั้งคำถามที่ท้าทายสำหรับยุคสมัยนั้น(และยังคงเป็นคำถามมาถึงยุคปัจจุบัน) ไว้สามข้อคือ...

1. เราจะไว้ใจว่าวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะสามารถควบคุมผลผลิตทางเทคโนโลยีของมันเองได้อย่างไร?
2. เทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของการใช้ชีวิตอย่างไร?

3. เทคโนโลยีจะเข้ามาควบคุมสังคมในขณะที่ความเป็นมนุษย์จะลดลงเรื่อยๆหรือไม่?  หุ่นยนตร์จะมีศักยภาพถึงขึ้นมาแทนมนุษย์ได้หรือไม่?...


"Metropolis - หนังไซไฟ" ตอนต่อไป ตอนที่ 3 (จบ)  คลิกที่นี่ 

* Credit ขอขอบคุณ : ข้อมูลบางส่วนจากเอกสารแจกในงานเสวนา เรื่อง อิทธิพลของ Metropolis ต่อภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ ของ Dr. Hans-Peter Rodenburg เมื่อ 22 ต.ค. 2546 และบทวิจารณ์หลังจากการเข้าชมภาพยนตร์ปิดเทศกาลหนัง World film festival of
Bangkok เรื่อง Metropolis เมื่อ 26 ต.ค. 2546

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น